Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
สงครามครั้งยิ่งใหญ่ - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    บทที่ 35 - ข่าวประเสริฐประการที่สามเสร็จสิ้นลง

    ข้าพเจ้าได้รับการชี้ลงไป ถึงเมื่อครั้งที่ข่าวทูตสวรรค์องค์ที่สามได้กำลังเสร็จสิ้นลง ฤทธานุภาพของพระเจ้าได้ปกคลุมพลไพร่ของพระองค์ เขาทั้งหลายได้กระทำภารกิจของพวกเขาสำเร็จแล้ว และได้ถูกเตรียมตัวพร้อมสำหรับชั่วโมงแห่งการลองใจที่อยู่ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เขาทั้งหลายได้รับฝนปลายฤดูหรือความชื่นใจยินดีที่มาจากพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และคำพยานที่มีชีวิตได้กลับคืนชีวิตขึ้นมา คำตักเตือนครั้งยิ่งใหญ่ประการสุดท้ายได้ส่งเสียงร้องทั่วทุกหนทุกแห่ง และมันได้ปลุกเร้าและทำให้บรรดาชาวโลกผู้ไม่ยอมรับข่าวประเสริฐนี้รู้สึกเดือดดาลGCTh 85.1

    ข้าพเจ้าได้เห็นเหล่าทูตสวรรค์รีบเร่งไปมาในฟ้าสวรรค์ ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้กลับมาจากแผ่นดินโลกหนีบหีบเครื่องเขียนมาด้วยที่ข้างลำตัวของท่าน และได้รายงานต่อพระเยซูว่าภารกิจของท่านนั้นสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ว่าเหล่าวิสุทธิชนได้ถูกนับและได้รับตราประทับเรียบร้อยแล้ว แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นพระเยซูผู้ซึ่งได้ทรงปรนนิบัติอยุ๋ที่หน้าหีบพันธสัญญา ทรงโยนท่านถวายเครื่องหอมลง พระองค์ได้ทรงยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างของพระองค์ขึ้น และทรงร้องด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า “สำเร็จแล้ว” และพลโยธาทูตสวรรค์ทั้งปวงได้ปลดมงกุฎของพวกท่านออก ในขณะที่พระเยซูทรงประกาศอย่างน่าคร้ามกลัวว่า “ผู้ที่เป็นคนอธรรมก็ให้เขาอธรรมต่อไป ผู้ที่เป็นคนลามกก็ให้เขาลามกต่อไป ผู้ที่เป็นคนชอบธรรมก็ให้เขาชอบธรรมต่อไป และผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ก็ให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป”GCTh 85.2

    ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วว่าทุกเรื่องกรณีก็ได้ถูกตัดสินระหว่างชีวิตหรือความตาย พระเยซูได้ทรงลบล้างความบาปทั้งปวงของพลไพร่ของพระองค์ออกไปแล้ว พระองค์ได้ทรงรับราชอาณาจักรของพระองค์ และพิธีลบบาปได้ถูกกระทำขึ้นเพื่อพลเมืองของราชอาณาจักรของพระองค์ ในขณะที่พระเยซูได้ทรงกำลังปรนนิบัติอยู่ในสถานบริสุทธิ์นั้น การพิพากษาได้กำลังดำเนินต่อไปสำหรับผู้ชอบธรรมที่ได้ตายไปแล้ว ต่อจากนั้นจึงดำเนินสำหรับผู้ชอบธรรมที่ยังมีชีวิตอยู่ พลเมืองของราชอาณาจักรนั้นได้ถูกรวบรวมไว้แล้ว พิธีราชาภิเษกของพระเมษโปดกก็ได้เสร็จพิธีลง และราชอาณาจักรและความยิ่งใหญ่แห่งบรรดาอาณาจักรภายใต้สวรรค์ทั้งสิ้นก็ได้ถูกมอบไว้แก่พระเยซูและรัชทายาทแห่งความรอด และพระเยซูกำลังจะทรงครองราชย์สมบัติในฐานะที่ทรงเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งมหากษัตริย์ทั้งปวงและเจ้านายแห่งเจ้านายทั้งปวง”GCTh 85.3

    ในขณะที่พระเยซูทรงเคลื่อนพระวรกายออกจากห้องบริสุทธิ์ที่สุดนั้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงกระดิ่งที่ชายฉลองพระองค์ดัง และในขณะที่พระองค์ทรงเสด็จออกไปนั้น เมฆแห่งความมืดก็ได้ปกคลุมชาวโลก ดังนั้นจึงไม่มีคนกลางระหว่างมนุษย์ผู้มีความผิดและพระเจ้าผู้ทรงถูกกระทำให้ขุ่นเคืองพระทัย ในขณะที่พระเยซูทรงกำลังประทับยืนอยู่ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ผู้มีความผิดนั้น ได้มีการเหนี่ยวรั้งไว้เพื่อมนุษย์ แต่เมื่อพระเยซูได้ทรงเสด็จก้าวออกจากที่ระหว่างมนุษย์และพระบิดาแล้ว การเหนี่ยวรั้งนั้นก็ได้ถูกเลื่อนออกไปและซาตานได้เข้าควบคุมมนุษย์ ภัยพิบัติต่าง ๆ จะถูกเทลงมายังไม่ได้ในขณะที่พระเยซูยังทรงประกอบพิธีอยู่ในสถานบริสุทธิ์ หากแต่ในขณะที่พระราชกิจของพระองค์ที่นั่นได้สำเร็จลงแล้ว และในขณะที่การอ้อนวอนของพระองค์นั้นเสร็จสิ้นลง มันจึงไม่มีสิ่งใดที่จะเหนี่ยวรั้งพระพิโรธของพระเจ้าได้ และพระพิโรธนั้นจะระเบิดลงด้วยความเดือดดาลบนศีรษะที่ไม่มีที่กำบังปกป้องของมนุษย์ผู้ที่มีความผิด ผู้ที่ได้สบประมาทความรอด และเกลียดชังการตำหนิติเตียน ส่วนเหล่าวิสุทธิชนในเวลาอันน่ากลัวนั้น หลังจากการเป็นผู้กลางของพระเยซูได้สิ้นสุดลง พวกเขาก็ได้มีชีวิตอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์โดยปราศจากผู้วิงวอน ทุกเรื่องกรณีได้ถูกตัดสินแล้ว บุคคลที่มีค่าสูงยิ่งทุกคนได้ถูกนับไว้แล้ว พระเยซูทรงรั้งรอคอยอยู่ชั่วขณะหนึ่งในห้องชั้นนอกของสถานบริสุทธิ์ในฟ้าสวรรค์ และความบาปทั้งสิ้นที่ได้ถูกสารภาพออกมาในขณะที่พระองค์ทรงประทับอยู่ในห้องบริสุทธิ์ที่สุดนั้น พระองค์ได้ทรงวางกลับไปที่ผู้ที่เป็นแหล่งกำเนิดของความบาปคือพญามาร มันจะต้องทนทุกข์ทรมานกับการลงโทษของความบาปเหล่านี้GCTh 85.4

    แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นพระเยซูทรงถอดเครื่องฉลองของปุโรหิตออก และทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องทรงแห่งพระมหากษัตริย์ บนพระเศียรของพระองค์ประดับด้วยมงกุฎหลายอันเป็นมงกุฎซ้อนมงกุฎ และทรงถูกล้อมโดยพลโยธาทูตสวรรค์ในขณะที่ทรงละฟ้าสวรรค์ไป ภัยพิบัติทั้งหลายได้กำลังตกลงสู่ชาวโลก บางคนได้กำลังพูดกล่าวหาพระเจ้าและสาปแช่งพระองค์ คนอื่นได้รีบกรูกันไปหาพลไพร่ของพระเจ้า และร้องขอให้สอนพวกเขาว่าจะหนีรอดจากการพิพากษาของพระเจ้าได้อย่างไร แต่เหล่าวิสุทธิชนต่างไม่มีอะไรให้พวกเขาเลย น้ำตาหยดสุดท้ายของบรรดาคนบาปได้ถูกหลั่งลง คำอธิษฐานอันแสนปวดร้าวครั้งสุดท้ายได้ถูกกล่าวขึ้น ภาระหนักสุดท้ายได้ถูกแบกไว้ ไม่มีพระสุรเสียงอันแสนหวานแห่งพระเมตตาอีกต่อไปที่จะคอยเชื้อเชิญพวกเขา สัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายก็ได้ถูกประกาศแล้ว ในขณะที่เหล่าวิสุทธิชนและทั่วฟ้าสวรรค์ต่างมีความสนใจในเรื่องความรอดของพวกเขา พวกเขากลับไม่มีความสนใจเพื่อตัวของพวกเขาเองเลย ชีวิตและความตายได้ถูกตั้งไว้ต่อหน้าพวกเขาแล้ว หลายคนได้ปรารถนาชีวิตหากแต่มิได้ใช้ความพยายามอะไรเลยที่จะให้ได้มันมา พวกเขาไม่ได้เลือกชีวิต และขณะนี้ก็ไม่มีโลหิตเพื่อการลบบาปเพื่อที่จะชำระคนบาปอีกต่อไปแล้ว ไม่มีพระผู้ช่วยให้รอดที่มีพระทัยสงสารที่คอยร้องอ้อนวอนให้แก่พวกเขาอีกแล้วที่จะทรงร้องว่า “ขอทรงโปรดปราณี ขอทรงโปรดปราณีต่อบรรดาคนบาปอีกสักนิดเถิด” ทั่วฟ้าสวรรค์ได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูในขณะที่พวกเขาได้ยินถ้อยคำอันน่าหวาดกลัวที่ว่า “สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว” นี้ แผนการแห่งความรอดได้สำเร็จลงแล้ว แต่มีเพียงน้อยคนที่ได้เลือกที่จะยอมรับแผนการนี้ และในขณะที่พระสุรเสียงอันแสนหวานแห่งพระเมตตาได้สูญสิ้นไปนั้น ความหวาดกลัวและความน่าขนพองสยองเกล้าได้ฉวยพวกเขาไว้ ด้วยพระสุรเสียงแจ่มชัดอันน่ากลัวยิ่งนักพวกเขาได้ยินว่า “สายไปเสียแล้ว สายไปเสียแล้ว”GCTh 85.5

    คนเหล่านั้นผู้ที่มิได้เห็นคุณค่าของพระวจนะของพระเจ้าต่างจะวิ่งไปวิ่งมา เขาทั้งหลายจะท่องเที่ยวจากทะเลนี้ไปทะเลโน้น และจากทิศเหนือไปทิศตะวันออก เพื่อแสวงหาพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวว่าเขาทั้งหลายจะหาไม่พบ มันจะเกิดทุพภิกขภัยที่ผืนแผ่นดิน ไม่ใช่การอดอาหารหรือการกระหายน้ำ แต่เป็นการอดฟังพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า เขาทั้งหลายจะต้องให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอะไรบ้างล่ะ เพื่อที่จะได้รับคำอนุมัติแม้เพียงคำเดียวจากพระเจ้า หากแต่ไม่มีเลย เขาทั้งหลายจะต้องหิวและกระหายต่อไป วันแล้ววันเล่าที่เขาทั้งหลายได้ดูหมิ่นดูแคลนความรอด และเห็นคุณค่าของความเพลิดเพลินใจทางโลก และความมั่งคั่งทางโลก สูงกว่าการชักชวนโน้มนำ และสูงกว่าทรัพย์สมบัติในฟ้าสวรรค์ เขาทั้งหลายได้ปฏิเสธไม่รับพระเยซูและรังเกียจเหล่าวิสุทธิชนของพระองค์ ความสกปรกลามกจะต้องคงความสกปรกลามกตลอดไปชั่วนิรันดร์GCTh 86.1

    คนชั่วส่วนใหญ่ต่างโกรธแค้นเดือดดาลอย่างรุนแรง ในขณะที่เขาทั้งหลายทนทุกข์ต่อผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ มันเป็นฉากแห่งความเจ็บปวดรวดร้าวอันน่ากลัวยิ่งนัก พ่อแม่ต่างติเตียนบุตรของตนอย่างขมขื่น และบุตรต่างติเตียนพ่อแม่ พี่ชายต่อน้องสาว และพี่สาวต่อน้องชาย เสียงร้องโอดครวญอันดังยิ่งนักต่างได้ยินไปทั่วทุกสารทิศ “ก็แกนั่นแหละที่กีดกันไม่ให้ฉันได้รับความจริงที่จะช่วยฉันให้รอดจากชั่วโมงอันเลวร้ายนี้” ประชาชนต่างหันมาหาศาสนาจารย์ผู้รับใช้ด้วยความเกลียดชังขมขื่นและติเตียนพวกเขาว่า “คุณไม่ได้เตือนพวกเราก่อนเลย คุณบอกกับเราว่าทั่วโลกจะมีการหันกลับมาหาพระเจ้า และคุณก็บอกว่า ‘จงสงบเถิด จงสงบเถิด’ เพื่อที่จะทำให้ความกลัวที่ถูกปลุกเร้านั้นเงียบลงไป คุณไม่ได้บอกเราถึงชั่วโมงนี้เลย และคนเหล่านั้นที่ได้เตือนเราคุณก็ว่าเขาคลั่งไคล้และเป็นคนชั่วร้ายที่จะมาทำลายเรา” หากแต่ข้าพเจ้าได้เห็นว่าศาสนาจารย์ผู้รับใช้จะหนีรอดจากพระพิโรธของพระเจ้าไปไม่ได้ ความทุกข์ทรมานของพวกเขานั้นก็ใหญ่กว่าคนของพวกเขาถึงสิบเท่าGCTh 86.2

    โปรดอ่าน เอเสเคียล 9:2-11; ดาเนียล 7:27; โฮเซยา 6:3; อาโมส 8:11-13; วิวรณ์บทที่ 16, 17:14GCTh 86.3