บท 29 - จุดเริ่มต้นของความชั่ว
- อารัมภบท
- บทนำของคณะผู้จัดพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษ
- คำนำของผู้ประพันธ์
- บท 1 - ความพินาศของกรุงเยรูซาเล็ม
- บท 2 - การกดขี่ข่มเหงในศตวรรษต้นๆ
- บท 3 - ยุคมืดทางจิตวิญญาณ
- บท 4 - ชาววอลเดนซิส
- บท 5 - ยอห์น ไวคลิฟ
- บท 6 - ฮัสและเจอโรมี
- บท 7 - ลูเธอร์ตีตัวออกห่างจากโรม
- บท 8 - ลูเธอร์รายงานตัวต่อสภา
- บท 9 - นักปฏิรูปศาสนาชาวสวิส
- บท 10 - ความก้าวหน้าของการปฏิรูปในประเทศเยอรมนี
- บท 11 - การประท้วงของเจ้าครองแคว้นต่างๆ
- บท 12 - การปฏิรูปศาสนาในประเทศฝรั่งเศส
- บท 13 - ประเทศเนเธอร์แลนด์และแถบสแกนดิเนเวีย
- บท 14 - นักปฏิรูปศาสนาชาวอังกฤษรุ่นหลัง
- บท 15 - พระคัมภีร์กับการปฏิวัติในประเทศฝรั่งเศส
- บท 16 - บรรพบุรุษที่เป็นพิลกริม
- บท 17 - ผู้ประกาศข่าวของรุ่งอรุณ
- บท 18 -นักปฏิรูปชาวอเมริกันท่านหนึ่ง
- บท 19 - ความสว่างส่องเข้าไปในที่มืด
- บท 20 - การตื่นตัวครั้งยิ่งใหญ่ฝ่ายศาสนา
- บท 21 - คำเตือนที่ถูกปฏิเสธ
- บท 22 - เหตุการณ์เกิดขึ้นตามคำพยากรณ์
- บท 23 - สถานนมัสการคืออะไร
- บท 24 - อภิสุทธิสถาน
- บท 25 - พระบัญญัติของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้
- บท 26 - ภารกิจหนึ่งของการปฏิรูป
- บท 27 - การฟื้นฟูยุคใหม่
- บท 28 - เผชิญหน้ากับหนังสือบันทึกแห่งชีวิต
- บท 29 - จุดเริ่มต้นของความชั่ว
- บท 30 - มนุษย์และซาตานเป็นศัตรูกัน
- บท 31 - สื่อวิญญาณชั่ว
- บท 32 - กับดักของซาตาน
- บท 33 - การหลอกลวงยิ่งใหญ่ครั้งแรก
- บท 34 - คนตายติดต่อกับเราได้หรือ
- บท 35 - เสรีภาพของจิตสำนึกถูกคุกคาม
- บท 36 - การขัดแย้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
- บท 37 - พระคัมภีร์เป็นโล่ป้องกัน
- บท 38 - คำเตือนสุดท้าย
- บท 39 - เวลาแห่งความทุกข์ยาก
- บท 40 - ประชากรของพระเจ้าได้รับการช่วยกู้
- บท 41 - โลกร้างอ้างว้าง
- บท 42 - ความขัดแย้งสิ้นสุดแล้ว
Search Results
- Results
- Related
- Featured
- Weighted Relevancy
- Content Sequence
- Relevancy
- Earliest First
- Latest First
- Exact Match First, Root Words Second
- Exact word match
- Root word match
- EGW Collections
- All collections
- Lifetime Works (1845-1917)
- Compilations (1918-present)
- Adventist Pioneer Library
- My Bible
- Dictionary
- Reference
- Short
- Long
- Paragraph
No results.
EGW Extras
Directory
บท 29 - จุดเริ่มต้นของความชั่ว
ในความนึกคิดของคนมากมาย จุดเริ่มต้นของบาปและเหตุผลที่บาปยังคงมีอยู่เป็นเรื่องน่าฉงนอย่างมาก พวกเขามองเห็นการกระทำของความชั่วพร้อมด้วยผลของความโศกเศร้าและหายนะที่น่ากลัว และต่างถามว่าเรื่องทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นได้อย่างไรภายใต้อำนาจการปกครองของพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระปัญญา อำนาจ และความรักที่ไม่มีขอบเขตจำกัด นี่เป็นความลึกลับที่พวกเขาหาคำอธิบายไม่ได้ และในความไม่มั่นใจและความสงสัยของพวกเขา พวกเขาจึงมืดบอดมองไม่เห็นความจริงที่เปิดเผยอย่างชัดแจ้งในพระวจนะของพระเจ้าและจำเป็นต่อความรอด ในขณะที่มีคนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่บาปยังคงมีอยู่นั้น พวกเขาลงแรงไปค้นหาในสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงเปิดเผย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พบคำตอบที่จะแก้ปัญหาของพวกเขา และเช่นนั้นพวกเขาจึงถูกกระตุ้นด้วยแนวโน้มที่จะสงสัย และการหาข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องนี้ก็เข้าครอบงำเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธพระคำในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับคนอื่นๆ พลาดที่จะเข้าใจอย่างน่าพึงพอใจในเรื่องปัญหายิ่งใหญ่ของความชั่ว ทั้งนี้เป็นเพราะข้อเท็จจริงที่ว่าขนบธรรมเนียมและการแปลความหมายผิดได้บดบังคำสอนของพระคัมภีร์ในเรื่องพระลักษณะนิสัยของพระเจ้า ลักษณะการปกครองของพระองค์ และหลักการต่างๆ ของพระองค์ในการจัดการกับบาป {GC 492.1}GCth17 428.1
การจะอธิบายจุดเริ่มต้นของบาปเพื่อจะใช้เป็นเหตุผลอธิบายถึงการที่บาปยังคงมีอยู่นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่กระนั้น เราเข้าใจทั้งในเรื่องจุดเริ่มต้นของบาปและการจัดการบาปขั้นสุดท้ายได้อย่างเพียงพอที่จะได้รับการแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ถึงความยุติธรรมและพระเมตตาคุณของพระเจ้าในการจัดการทุกอย่างที่ทรงทำกับความชั่ว ไม่มีเรื่องใดที่พระคัมภีร์สอนไว้ชัดเจนมากไปกว่าเรื่องที่ว่าพระเจ้าไม่ทรงต้องรับผิดชอบกับการเข้ามาของบาป ว่าไม่มีการถอนคืนพระคุณของพระเจ้าอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีความบกพร่องในระบอบการปกครองของพระเจ้าที่เปิดโอกาสให้เกิดการกบฏขึ้น บาปเป็นผู้บุกรุก ไม่มีเหตุผลใดที่จะบอกว่าบาปยังคงมีอยู่ได้อย่างไร บาปลึกลับและอธิบายไม่ได้ หากให้ข้อแก้ตัวแก่บาปก็จะเป็นการปกป้องบาป หากพบว่ามีข้อแก้ตัวประการใดหรือหาสาเหตุเพื่อแสดงให้เห็นว่าบาปคงอยู่ได้อย่างไรแล้ว บาปก็ไม่ใช่บาป คำจำกัดความของบาปได้มาตามที่พระคำของพระเจ้าให้ไว้คือ “บาปเป็นสิ่งที่ผิดธรรมบัญญัติ” 1 ยอห์น 3:4 บาปเป็นผลจากการกระทำของหลักการที่ต่อสู้กับธรรมบัญญัติยิ่งใหญ่แห่งความรักซึ่งเป็นพื้นฐานการปกครองของพระเจ้า {GC 492.2}GCth17 428.2
ก่อนที่ความชั่วจะเข้ามา ทั่วทั้งจักรวาลมีสันติสุขและความสุข ทุกสิ่งเข้าประสานอย่างบริบูรณ์กับพระประสงค์ของพระเจ้าพระผู้สร้าง ความรักที่ถวายแด่พระเจ้านั้นสูงส่ง ความรักที่มีให้แก่กันนั้นไม่ลำเอียง พระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระวาทะ ผู้ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาผู้ทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์ คือทรงเป็นหนึ่งเดียวทั้งในธรรมชาติ ในพระลักษณะและในเป้าหมาย พระองค์ทรงเป็นเพียงผู้เดียวของทั้งจักรวาลที่ทรงสามารถเข้าร่วมในการประชุมต่างๆ และในการวางแผนทั้งหมดของพระเจ้าได้ พระบิดาทรงประกอบกิจผ่านพระคริสต์ในการทรงสร้างชาวสวรรค์ทั้งปวง “ในพระองค์สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้า….ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์ หรือเป็นเทพอาณาจักร หรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ” โคโลสี 1:16 TBS 1971 และชาวสวรรค์ทั้งปวงถวายความภักดีแด่พระคริสต์เสมอเท่าพระบิดา {GC 493.1}GCth17 429.1
ธรรมบัญญัติแห่งความรักเป็นรากฐานการปกครองของพระเจ้า ความสุขของสรรพสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมด ขึ้นกับความสอดคล้องอย่างบริบูรณ์ที่พวกเขามีต่อหลักการยิ่งใหญ่ของความชอบธรรม พระเจ้าทรงประสงค์การรับใช้แห่งรักจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่พระองค์ทรงสร้าง คือความจงรักภักดีที่เกิดขึ้นจากการสำนึกอย่างมีสติในพระลักษณะของพระองค์ พระองค์ไม่ทรงพอพระทัยความจงรักภักดีที่ได้จากการบังคับและพระองค์ทรงโปรดประทานความนึกคิดที่เป็นอิสระให้แก่ชาวสวรรค์ทั้งปวงเพื่อพวกเขาจะมอบถวายการรับใช้ด้วยใจสมัคร {GC 493.2}GCth17 429.2
แต่มีบุคคลหนึ่งเลือกใช้เสรีภาพนี้ไปในทางผิด บาปเริ่มต้นขึ้นในตัวเขา เขาเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติมากที่สุดจากพระเจ้ารองลงมาจากพระคริสต์ และเขาเป็นผู้ที่มีอำนาจและสง่าราศีมากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาผู้อาศัยในสวรรค์อื่นๆ ก่อนที่ลูซิเฟอร์จะล้มลงในบาป เขาเป็นหัวหน้าเครูบผู้พิทักษ์ บริสุทธิ์และไร้มลทิน “พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า เจ้าเป็นแบบอย่างของความสมบูรณ์ เต็มด้วยสติปัญญาและมีความงามอย่างพร้อม เจ้าอยู่ในสวนเอเดน อุทยานของพระเจ้า อัญมณีทุกอย่างเป็นเครื่องแต่งกายของเจ้า......เราแต่งตั้งเจ้าไว้โดยมีเครูบเป็นผู้พิทักษ์ เจ้าอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของพระเจ้าและเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง เจ้าปราศจากตำหนิในวิธีทางของเจ้าตั้งแต่วันที่เจ้าได้ถูกสร้างขึ้น จนเมื่อพบบาปชั่วในตัวเจ้า” เอเสเคียล 28:12-15 {GC 493.3}GCth17 429.3
ลูซิเฟอร์น่าจะยังคงอยู่เป็นที่ชื่นชอบของพระเจ้า เป็นที่รักและได้รับเกียรติจากหมู่ทูตสวรรค์ทั้งปวง เขาน่าจะใช้อำนาจอันสูงสง่าเพื่อเป็นพระพรแก่ผู้อื่นและเพื่อถวายเกียรติพระผู้สร้าง แต่ผู้เผยพระวจนะกล่าวว่า “ใจของเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้าทำให้ปัญญาของเจ้าวิปริตไปเนื่องด้วยความสง่างามของเจ้า” เอเสเคียล 28:17 ทีละเล็กทีละน้อย ลูซิเฟอร์เข้าไปหมกมุ่นอยู่กับความต้องการยกตนให้สูงขึ้น “เจ้าถือตัวว่าความคิดเจ้าเป็นเหมือนความคิดพระเจ้า” “เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า ‘ ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้าเหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะนั่งบนขุนเขาแห่งการชุมนุม ...…ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะทำให้ตัวของข้าเหมือนองค์สูงสุด’” เอเสเคียล 28:6 อิสยาห์ 14:13, 14 แทนที่ลูซิเฟอร์จะพยายามชักจูงให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงเทิดทูนพระเจ้าให้สูงสุดและจงรักภักดีต่อพระผู้ที่สร้างเขามานั้น เขากลับพยายามที่จะให้ทูตสวรรค์รับใช้และเคารพตัวเขาเอง และเขาโลภเกียรติยศที่พระบิดาทรงโปรดประทานให้พระบุตรของพระองค์ เจ้าชายแห่งเหล่าทูตสวรรค์องค์นี้หวังอยากได้อำนาจซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของพระคริสต์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ถือครอง {GC 494.1}GCth17 430.1
ชาวสวรรค์ทั้งปวงชื่นชมปรีดาที่จะสะท้อนรัศมีภาพของพระผู้สร้างและถวายสรรเสริญพระองค์ และในขณะที่พระเจ้าทรงได้รับเกียรติเช่นนี้ ทุกสิ่งมีแต่สันติสุขและความชื่นชม แต่บัดนี้มีเสียงหนึ่งที่ไม่ประสานเข้ากับเสียงอื่นๆ ทำลายความกลมกลืนของชาวสวรรค์ไป การทำเพื่อตนเองและการยกตนขึ้นเป็นวิถีทางที่ตรงข้ามกับแผนการของพระผู้สร้าง การกระทำเช่นนี้กระตุ้นให้เกิดความชั่วในจิตใจที่ซึ่งพระสิริของพระเจ้าจะต้องยิ่งใหญ่ที่สุด สภาของชาวสวรรค์อ้อนวอนลูซิเฟอร์ พระบุตรของพระเจ้าอธิบายให้เขาเห็นความยิ่งใหญ่ คุณความดีและความยุติธรรมของพระผู้สร้างและพระบัญญัติของพระองค์ที่ศักดิ์สิทธิ์และไม่เปลี่ยนแปลง พระเจ้าทรงเป็นผู้วางระเบียบของสวรรค์ด้วยพระองค์เอง และด้วยการออกไปจากระเบียบ ลูซิเฟอร์จะหลู่เกียรติพระผู้สร้างของเขาและนำหายนะมาสู่ตนเอง แต่คำตักเตือนที่ประทานให้ด้วยความรักของพระเจ้าและพระเมตตาคุณที่ไม่มีวันหมดสิ้นกลับปลุกแต่วิญญาณการต่อต้าน ลูซิเฟอร์ปล่อยให้ความอิจฉาที่มีต่อพระคริสต์มีชัยและเขาก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น {GC 494.2}GCth17 430.2
ความทะนงตนในความงดงามของตัวเองหล่อเลี้ยงความปรารถนาของความเป็นใหญ่ ลูซิเฟอร์ไม่สำนึกว่าเกียรติยศสูงศักดิ์ที่ทรงโปรดประทานให้เขานั้นเป็นของประทานจากพระเจ้าและไม่ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งในพระคุณต่อพระผู้สร้าง เขาเทิดทูนในรัศมีสดใสและความสูงเกียรติและหวังอยากที่จะเท่าเทียมกับพระเจ้า ชาวสวรรค์รักและเคารพเขา ทูตสวรรค์ต่างยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของเขาและเขาได้รับสติปัญญาและรัศมีภาพเหนือกว่าทูตสวรรค์ทั้งหมด ถึงกระนั้น พระบุตรของพระเจ้าทรงเป็นที่ยอมรับของชาวสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นหนึ่งร่วมกับพระบิดาทั้งในพลังและอำนาจ ในประชุมสภาทั้งหมดของพระเจ้า พระคริสต์ทรงเข้าร่วมอยู่ด้วย ในขณะที่ลูซิเฟอร์ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในการวางแผนการของพระเจ้า ทูตสวรรค์ยิ่งใหญ่องค์นี้ถามว่า “ทำไม พระคริสต์จึงมีอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทำไมพระองค์จึงได้รับเกียรติเหนือกว่าลูซิเฟอร์” {GC 495.1}GCth17 431.1
ลูซิเฟอร์ออกไปจากตำแหน่งของเขาซึ่งอยู่ถัดจากเบื้องพระพักตร์พระเจ้า เขาไปกระจายความรู้สึกไม่พอใจให้กับทูตสวรรค์ทั้งหลาย เขาทำงานนี้อย่างลับๆ และชั่วขณะหนึ่งเขาปกปิดเป้าหมายแท้จริงด้วยการแสดงว่ายำเกรงพระเจ้า เขาพยายามสร้างความไม่พอใจในเรื่องพระบัญญัติที่ใช้ปกครองชาวสวรรค์และยุยงว่าพวกเขาถูกบังคับด้วยข้อห้ามต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เนื่องจากทูตสวรรค์มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เขาจึงปลุกเร้าว่าพวกเขาควรต้องปฏิบัติตามความปรารถนาของตนเอง เขาพยายามทำตัวเพื่อให้ทูตสวรรค์เห็นใจในตัวเขาด้วยการทำให้เห็นว่าพระเจ้าทรงปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ยุติธรรมด้วยการประทานเกียรติยศสูงสุดให้แก่พระคริสต์ เขาอ้างว่าความอยากได้อำนาจและเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ขึ้นนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อยกชูตนเองขึ้นให้สูง แต่กำลังหาเสรีภาพมาให้กับชาวสวรรค์ทั้งปวงเพื่อโดยวิธีนี้พวกเขาจะได้ไปถึงระดับที่สูงยิ่งขึ้น {GC 495.2}GCth17 431.2
ด้วยพระเมตตาคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระองค์ทรงอดกลั้นพระทัยนานต่อลูซิเฟอร์ พระองค์ไม่ทรงปลดเขาออกจากตำแหน่งสูงศักดิ์ในทันที เมื่อเขาปล่อยตัวให้กับวิญญาณของความไม่พึงพอใจ หรือเมื่อเขาเริ่มเสนอข้ออ้างผิดให้แก่ทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์ เขายังคงอยู่ในสวรรค์อีกนาน ครั้งแล้วครั้งเล่า ลูซิเฟอร์ได้รับข้อเสนอของการอภัยโทษโดยมีข้อแม้ให้กลับใจและยอมมอบถวายตัว ความพยายามเช่นนี้มีเพียงความรักและพระปัญญาของพระเจ้าที่จัดไว้เพื่อให้เขารู้สึกสำนึกในความผิด วิญญาณของความไม่พอใจไม่เคยมีปรากฏในสวรรค์ แรกเริ่มนั้น ลูซิเฟอร์เองมองไม่เห็นว่ากำลังหลงไปทางใด เขาไม่เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของความรู้สึกต่างๆ ของตนเอง แต่เมื่อความไม่พึงพอใจของเขาผ่านการพิสูจน์ว่าไม่มีมูลเหตุแล้ว ลูซิเฟอร์ก็รู้สึกแน่ใจว่าตัวเขาเองผิดและสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าทรงกล่าวไว้นั้นยุติธรรมและเขาควรที่จะยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ต่อหน้าชาวสวรรค์ทั้งปวง หากเขาทำเช่นนี้ เขาคงช่วยตัวเองและทูตสวรรค์มากมายไว้ ในเวลานี้เขายังไม่ได้ละทิ้งความภักดีต่อพระเจ้าไปโดยสิ้นเชิง แม้เขาจะละทิ้งตำแหน่งของเทพผู้พิทักษ์ไปแล้ว แต่กระนั้นหากเขายอมกลับไปหาพระเจ้า ยอมรับพระปัญญายิ่งใหญ่ของพระผู้สร้างและพอใจรับตำแหน่งที่ทรงโปรดแต่งตั้งให้เขาในแผนการยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแล้ว เขาคงจะได้รับแต่งตั้งให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ความหยิ่งทะนงตนทำให้ตัวเขาไม่ยอมจำนน เขายืนกรานปกป้องแนวคิดของเขา ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องกลับใจและมอบตัวเองอย่างเต็มที่เข้าสู่ความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่เพื่อต่อสู้พระผู้สร้างของเขา {GC 495.3}GCth17 431.3
บัดนี้ กำลังปัญญาเฉียบแหลมทั้งหมดของเขามุ่งหันเข้าหางานแห่งการหลอกลวงเพื่อเอาชนะความเห็นใจของทูตสวรรค์ที่อยู่ภายใต้การบัญชาของเขา แม้แต่ความจริงที่พระคริสต์ได้ทรงเตือนและแนะนำแก่เขา ก็ยังถูกบิดเบือนเพื่อใช้ในแผนการทรยศ สำหรับทูตสวรรค์ที่วางใจและผูกพันใกล้ชิดที่สุดกับซาตาน มันทำให้พวกเขามองว่ามันไม่ได้รับความยุติธรรม ตำแหน่งของมันไม่ได้รับความเคารพและเสรีภาพของมันถูกตัดทอน ในการแปลความหมายพระดำรัสของพระคริสต์ไปในทางที่ผิดเช่นนี้ มันก้าวไปสู่การพูดกลับกลอกและพูดเท็จ มันกล่าวหาพระบุตรของพระเจ้าว่าทรงวางแผนเพื่อทำให้มันอับอายต่อหน้าบรรดาผู้อาศัยในสวรรค์ มันยังนำเสนอประเด็นเท็จระหว่างตัวมันเองกับเหล่าทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์อีกด้วย ทูตสวรรค์ที่มันไม่สามารถโน้นน้าวและนำเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับมันได้นั้น มันกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ไม่สนใจผลประโยชน์ของชาวสวรรค์ มันซัดทอดงานที่ตัวมันกำลังทำอยู่นี้ใส่ทูตสวรรค์เหล่านั้นที่ยังคงภักดีต่อพระเจ้า ในการที่จะทำให้คำกล่าวหาของมันที่ว่าพระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมนั้นมีน้ำหนัก มันหันไปโจมตีพระดำรัสและการกระทำของพระผู้สร้าง เป็นแผนของมันที่ทำให้ทูตสวรรค์รู้สึกงุนงงในเรื่องพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยเล่ห์เหลี่ยมการโต้เถียงของมัน ทุกสิ่งที่เรียบง่ายนั้นมันห่อหุ้มด้วยความลึกลับและการบิดเบือนอย่างมีศิลปะ มันโยนข้อสงสัยใส่ถ้อยคำอันชัดแจ้งที่สุดของพระยาห์เวห์ ตำแหน่งสูงของมันที่อยู่ใกล้อำนาจการปกครองของพระเจ้าทำให้สิ่งที่มันพูดมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นและโน้มน้าวให้ชาวสวรรค์มากมายเข้าร่วมกับมันในการกบฏต่ออำนาจของพระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ {GC 496.1}GCth17 432.1
ด้วยพระปัญญาของพระเจ้า พระองค์ทรงปล่อยให้ซาตานทำงานของมันต่อไปจนกระทั่งจิตใจแห่งความไม่พอใจสุกงอมกลายเป็นการกบฏเต็มรูปแบบ เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องปล่อยให้แผนการต่างๆ ของมันพัฒนาไปอย่างเต็มที่เพื่อทุกคนจะมองเห็นลักษณะและธาตุแท้ของพวกมัน ลูซิเฟอร์ในฐานะเครูบผู้ที่ไดรับการเจิมแล้วนั้น ได้รับการเชิดชูไว้อย่างสูงส่ง มันเป็นที่รักยิ่งของชาวสวรรค์และมีอิทธิพลเหนือพวกเขาอย่างแรงกล้า อาณาบริเวณการปกครองของพระเจ้าไม่ได้รวมเฉพาะชาวสวรรค์เท่านั้น แต่ยังรวมโลกทั้งหมดที่พระองค์ทรงสร้าง และซาตานคิดว่าหากมันชักนำทูตสวรรค์เข้าร่วมการกบฏกับมันได้แล้ว มันก็จะชักนำโลกอื่นเข้าร่วมกับมันด้วย มันนำเสนอปัญหาในส่วนของมันได้อย่างแนบเนียน มันใช้เล่ห์เหลี่ยมและการหลอกลวงเพื่อบรรลุเป้าหมายของมัน อำนาจของการหลอกลวงของมันนั้นยิ่งใหญ่และมันได้เปรียบด้วยการแฝงตัวโดยสวมเสื้อคลุมแห่งความเท็จ แม้แต่บรรดาทูตสวรรค์ที่จงรักภักดีก็ไม่อาจเข้าใจลักษณะนิสัยของมันหรือมองเห็นว่างานของมันจะนำไปสู่ทิศทางใด {GC 497.1}GCth17 432.2
ซาตานได้รับเกียรติสูงส่งอย่างมากยิ่งและการกระทำทั้งหมดของมันถูกปกปิดไว้อย่างลึกลับ ยากที่บรรดาทูตสวรรค์จะเปิดเผยธรรมชาติที่แท้จริงของงานของมัน บาปจะไม่ปรากฏว่าชั่วร้ายอย่างที่มันเป็นจนกว่ามันจะเติบใหญ่อย่างเต็มที่ นับแต่ก่อนจวบจนกระทั่งบัดนี้ ไม่มีที่สำหรับบาปในจักรวาลของพระเจ้า และสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์ไม่เข้าใจถึงธรรมชาติและความชั่วร้ายของมัน พวกเขามองไม่เห็นผลพวงต่างๆ อันน่ากลัวที่จะตามมาภายหลังซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการละทิ้งธรรมบัญญัติของพระเจ้า ในช่วงแรกซาตานปกปิดการกระทำของมันไว้ภายใต้การแสดงออกว่าจงรักภักดีต่อพระเจ้า มันอ้างว่ากำลังหาทางส่งเสริมเกียรติยศของพระเจ้า ความมั่นคงในการปกครองของพระองค์และผลประโยชน์ของผู้อาศัยทั้งหมดในสวรรค์ ในขณะที่มันปลูกฝังความไม่พอใจเข้าไปในความคิดของทูตสวรรค์ที่อยู่ภายใต้มันนั้น มันทำอย่างแนบเนียนจนดูราวกับว่ามันกำลังหาทางกำจัดความไม่พอใจ เมื่อมันเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงระเบียบและกฎบัญญัติต่างๆ ของการปกครองของพระเจ้านั้น มันทำภายใต้การหลอกลวงว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสวรรค์ {GC 497.2}GCth17 432.3
ในการที่พระเจ้าทรงจัดการกับบาปนั้น พระองค์ทรงใช้ได้เฉพาะความชอบธรรมและความจริงเท่านั้น ซาตานใช้การประจบประแจงและการหลอกลวงซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงใช้ไม่ได้ นั่นคือ มันหาทางที่จะปลอมแปลงพระคำของพระเจ้าและเสนอให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายเข้าใจแผนการการปกครองของพระองค์ไปในทางที่ผิด โดยอ้างว่าพระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมในการจัดวางกฎและระเบียบต่างๆ ให้กับบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในสวรรค์ และอ้างว่าในการกำหนดให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงยอมจำนนและเชื่อฟังพระองค์นั้น พระองค์เพียงแต่ต้องการยกพระองค์เองขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องแสดงให้เหล่าชาวสวรรค์ทั้งปวงรวมทั้งโลกทั้งหลายเห็นว่า การปกครองของพระเจ้ายุติธรรมและธรรมบัญญัติของพระองค์บริบูรณ์ ซาตานทำให้ดูประหนึ่งว่าตัวมันเองคอยพยายามส่งเสริมเพื่อประโยชน์ของจักวาล ดังนั้นลักษณะที่แท้จริงของผู้ฉกชิงคนนี้และเป้าหมายแท้จริงของมันจะต้องถูกเข้าใจโดยทุกๆ คน ซาตานต้องมีเวลาเพื่อเปิดเผยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยผลงานชั่วต่างๆ ของมัน {GC 498.1}GCth17 433.1
ความขัดแย้งที่มันเองเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้นในสวรรค์ ซาตานกลับกล่าวโทษธรรมบัญญัติและการปกครองของพระเจ้า มันประกาศว่าความชั่วทั้งปวงเป็นผลจากการบริหารจัดการของพระเจ้า มันอ้างว่าเป็นความประสงค์ของมันที่จะทำให้บัญญัติต่างๆ ของพระยาห์เวห์ดีขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องให้มันแสดงสิ่งที่มันอ้างให้เห็นประจักษ์และแสดงผลลัพธ์ของข้อเสนอของมันในการเปลี่ยนแปลงธรรมบัญญัติของพระเจ้า ผลงานของมันเองจะต้องปรักปรำตัวมันเอง ซาตานอ้างแต่แรกแล้วว่ามันไม่ได้กบฏ ทั้งจักรวาลจึงต้องเห็นจอมหลอกลวงเปิดเผยโฉมหน้าออกมา {GC 498.2}GCth17 433.2
แม้เมื่อพระเจ้าทรงชี้ขาดไม่ให้ซาตานอยู่ในสวรรค์ต่อไป พระองค์ผู้ทรงกอปรด้วยพระปัญญายังไม่ทรงทำลายซาตาน เนื่องจากพระเจ้าทรงยอมรับการรับใช้ด้วยความรักเท่านั้น ความภักดีของผู้ที่พระองค์ทรงสร้างทั้งหมดจะต้องวางอยู่บนความสำนึกในความยุติธรรมและพระเมตตากรุณาของพระองค์ บรรดาผู้ที่อาศัยในสวรรค์และโลกอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมในการทำความเข้าใจธรรมชาติของบาปหรือผลพวงต่างๆ ที่ตามมาของบาปจะไม่สามารถมองเห็นความยุติธรรมและพระเมตตาของพระเจ้าในการทำลายซาตานได้ หากทรงกำจัดมันทิ้งไปเสียในทันที พวกเขาจะรับใช้พระเจ้าด้วยความกลัวมากกว่าด้วยความรัก อิทธิพลของผู้หลอกลวงจะไม่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นหรือแม้กระทั่งวิญญาณแห่งการกบฏก็จะไม่ถูกถอนรากออกไปจนหมดสิ้น จะต้องยอมปล่อยให้ความชั่วเติบโตจนสุกงอม เพื่อผลที่ดีต่อทั้งจักรวาลไปตลอดกาลอย่างไม่สิ้นสุด ซาตานจะต้องพัฒนาหลักการต่างๆ ของมันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อสิ่งมีชีวิตทั้งปวงซึ่งพระเจ้าทรงสร้างจะมองเห็นข้อกล่าวหาที่มันมีต่อการปกครองของพระเจ้าด้วยแสงสว่างที่แท้จริง เพื่อความยุติธรรมและพระเมตตาของพระเจ้าและพระบัญญัติที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์จะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาไปตลอดกาล {GC 498.3}GCth17 433.3
การกบฏของซาตานจะต้องเป็นบทเรียนของจักรวาลนานตลอดไปทุกยุคที่กำลังจะมาถึง เป็นพยานหลักฐานไปตลอดกาลถึงธรรมชาติและผลลัพธ์อันน่ากลัวต่างๆ ของบาป การกระทำตามแนวทางของซาตานซึ่งมีผลต่อทั้งมนุษย์และทูตสวรรค์ จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าการละเลยอำนาจของพระเจ้าจะเกิดผลอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการปกครองของพระเจ้าและธรรมบัญญัติของพระองค์มีไว้เพื่อความสมบูรณ์พูนสุขของสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น ด้วยเหตุนี้ ประวัติศาสตร์ของประสบการณ์การกบฏที่น่ากลัวนี้จะเป็นแนวกำบังป้องกันอย่างต่อเนื่องให้แก่สิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกหลอกในเรื่องธรรมชาติของการล่วงละเมิด เพื่อช่วยพวกเขาไม่ให้ทำบาปและตกลงสู่ความทุกข์ของการต้องโทษ {GC 499.1}GCth17 434.1
ผู้ฉกชิงยิ่งใหญ่ผู้นี้ยังคงแก้ตัวอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ใกล้ปิดฉากความขัดแย้งในสวรรค์ เมื่อคำประกาศว่าซาตานและผู้สนับสนุนทั้งหมดของมันจะต้องถูกขับออกจากที่พำนักอันสุขสำราญถูกประกาศออกมาแล้ว หลังจากนั้นหัวหน้ากบฏจึงประกาศอย่างห้าวหาญหมิ่นประมาทธรรมบัญญัติของพระผู้สร้าง มันย้ำข้ออ้างว่าทูตสวรรค์ไม่ต้องการการควบคุม แต่ควรปล่อยให้ทำตามความต้องการของพวกเขาเองซึ่งจะชี้นำไปในทางที่ถูกเสมอ มันประณามว่าข้อกำหนดของพระเจ้าจำกัดเสรีภาพของพวกมันและประกาศว่าเป็นความประสงค์ของมันที่จะหาทางลบล้างธรรมบัญญัติ เพื่อว่าเมื่อหลุดออกจากข้อผูกมัดนี้ ชาวสวรรค์จะมีความเป็นอยู่ที่สูงขึ้นและมีราศีมากยิ่งขึ้น {GC 499.2}GCth17 434.2
ซาตานและพรรคพวกของมันพร้อมใจกันซัดทอดความผิดทั้งหมดของการกบฏใส่พระคริสต์ โดยประกาศว่า หากพวกมันไม่ถูกตำหนิก็คงจะไม่มีทางที่จะกบฏ ด้วยความดื้อรั้นและการท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวในการทรยศของมัน มันพยายามคว่ำการปกครองของพระเจ้าแต่กลับไร้ผล แต่กระนั้นมันยังอ้างอย่างหมิ่นประมาทว่าตนเป็นเหยื่อบริสุทธิ์ของอำนาจที่กดขี่ และแล้วในที่สุด จ้าวจอมกบฏและผู้สนับสนุนทั้งหมดของมันก็ถูกขับออกจากสวรรค์ {GC 499.3}GCth17 434.3
วิญญาณเดียวกันที่ก่อการกบฏขึ้นในสวรรค์ยังคงดลบันดาลให้เกิดการกบฏขึ้นในโลก ซาตานสานต่อนโยบายเดียวกันนี้กับมนุษย์ดังที่มันกระทำกับบรรดาทูตสวรรค์ บัดนี้วิญญาณของมันเข้าครอบครองในตัวเหล่าบุตรที่ไม่เชื่อฟัง เช่นเดียวกับซาตาน พวกเขาพยายามหาทางทำลายข้อห้ามในธรรมบัญญัติของพระเจ้าและสัญญาที่จะให้เสรีภาพแก่มนุษย์ผ่านทางการล่วงละเมิดกฎต่างๆ ในนั้น การตำหนิบาปยังคงปลุกเร้าวิญญาณของความเกลียดชังและการต่อต้าน เมื่อข่าวสารคำเตือนของพระเจ้านำสติของพวกเขากลับคืนมา ซาตานก็นำมนุษย์ให้แก้ตัวว่าตนเองถูกและหาความเห็นใจจากผู้อื่นในวิถีบาปของตนที่ได้ทำลงไป แทนที่จะแก้ไขความผิดของพวกเขา พวกเขากลับเกรี้ยวกราดใส่ผู้ที่ตักเตือนราวกับว่าคนผู้นั้นเป็นต้นเหตุเดียวที่ก่อให้เกิดความลำบาก ตั้งแต่สมัยของอาเบลผู้ชอบธรรมจนถึงยุคนี้ของเรา วิญญาณเดียวกันนี้ยังคงปฏิบัติต่อผู้ที่กล้าตำหนิบาป {GC 500.1}GCth17 435.1
ซาตานชักนำมนุษย์ให้ทำบาปด้วยการบิดเบือนพระลักษณะอุปนิสัยของพระเจ้าเช่นเดียวกับที่มันเคยทำในสวรรค์ มันทำให้มนุษย์มองว่าพระเจ้าทรงเข้มงวดและโหดเหี้ยม และเมื่อมันทำสำเร็จในระดับหนึ่ง มันก็ประกาศว่าข้อจำกัดต่างๆ ที่ไม่ยุติธรรมของพระเจ้าทำให้มนุษย์ล้มลงในบาป เช่นเดียวกับที่นำให้มันเองกบฏ {GC 500.2}GCth17 435.2
แต่พระเจ้าพระผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์กาลทรงประกาศถึงพระลักษณะของพระองค์เองว่า “ พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณาและพระคุณ พระองค์กริ้วช้า ทรงบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงจนถึงพันๆ ชั่วอายุคน ผู้ประทานอภัยการล่วงละเมิด การทรยศและบาป แต่จะไม่ทรงละเว้นการลงโทษอย่างแน่นอน” อพยพ 34:6. 7 {GC 500.3}GCth17 435.3
ด้วยการขับซาตานออกจากสวรรค์ พระเจ้าทรงประกาศถึงความยุติธรรมของพระองค์และรักษาเกียรติของพระบัลลังก์ของพระองค์ไว้ แต่เมื่อมนุษย์ทำบาปด้วยการยอมแพ้ต่อการหลอกลวงของวิญญาณนี้ที่ละทิ้งพระเจ้า พระเจ้าประทานหลักฐานแห่งความรักของพระองค์ด้วยการประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ ให้เสด็จมาสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษยชาติที่ล้มลงในบาป ในการลบมลทินบาปได้เปิดเผยให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้า การพิสูจน์อันทรงพลังของกางเขนแสดงให้ทั่วทั้งจักรวาลได้มองเห็นว่าแนวทางแห่งบาปที่ลูซิเฟอร์เลือกนั้นไม่มีเหตุกล่าวหาการปกครองของพระเจ้าได้ {GC 500.4}GCth17 436.1
ในการต่อสู้ระหว่างพระคริสต์กับซาตานในช่วงสมัยที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงปฏิบัติพระราชกิจในโลกนั้น ธาตุแท้ของจ้าวจอมหลอกลวงถูกเปิดกระชากออก ไม่มีสิ่งใดที่มีผลต่อการถอนรากซาตานออกไปจากความรักของเหล่าทูตสวรรค์และจักรวาลทั้งปวงที่ภักดีได้ดีไปกว่าสงครามโหดเหี้ยมที่มันทำกับพระผู้ไถ่ของโลก การหมิ่นประมาทอย่างท้าทายของมันที่เรียกร้องให้พระคริสต์กราบบูชามัน ความอาจหาญอย่างอวดดีไม่เกรงกลัวที่ยกพระองค์ขึ้นไปบนยอดเขาและยอดหอคอยพระนิเวศ ความประสงค์ร้ายกาจที่เรียกร้องให้พระองค์กระโจนจากความสูงที่น่ากลัว ความมุ่งร้ายที่ไม่เคยหลับใหลที่ตามล่าพระองค์ไปทุกที่ การดลบันดาลใจของปุโรหิตและประชาชนให้ปฏิเสธความรักของพระองค์และในที่สุดร้องว่า “เอาไปตรึง เอาไปตรึงที่กางเขน” ลูกา 23:21 เรื่องทั้งหมดนี้กระตุ้นให้เกิดความตะลึงและความโกรธของทั่วทั้งจักรวาล {GC 501.1}GCth17 436.2
ซาตานเป็นผู้ที่ปลุกปั่นให้โลกปฏิเสธพระคริสต์ เจ้าชายแห่งความชั่วลงแรงและเล่ห์ทั้งหมดของมันเพื่อทำลายพระเยซู เพราะมันมองเห็นว่าพระเมตตาและความรักของพระผู้ช่วย ความเห็นอกเห็นใจและความสงสารอันอ่อนโยนของพระองค์แสดงให้โลกเห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้า ซาตานโต้สิทธิการเรียกร้องทุกข้อที่พระบุตรของพระเจ้ายกชูขึ้นมาและใช้มนุษย์เป็นตัวแทนของมันเพื่อทำให้ชีวิตของพระผู้ช่วยให้รอดเต็มล้นด้วยความทุกข์ระทมและความเศร้าโศก การหลอกลวงและความเท็จที่มันพยายามหามาเพื่อขัดขวางพระราชกิจของพระเยซู ความเกลียดชังอย่างเปิดเผยผ่านเหล่าบุตรที่ไม่เชื่อฟัง คำใส่ร้ายอันโหดเหี้ยมที่มันกล่าวหาพระองค์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างของชีวิตที่ดีนั้น สิ่งทั้งหมดเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากความอาฆาตที่ฝังลึกอยู่ภายใน ไฟริษยาและปองร้าย ความเกลียดชังและผูกพยาบาทที่ปะทุขึ้นมา ระเบิดเข้าใส่พระบุตรของพระเจ้าบนกางเขนคาลวารี ในขณะที่ชาวสวรรค์ทั้งปวงจ้องมองภาพนั้นด้วยความหวาดกลัวอย่างเงียบงัน {GC 501.2}GCth17 436.3
เมื่อการถวายบูชาอันยิ่งใหญ่สำเร็จบริบูรณ์แล้ว พระคริสต์เสด็จขึ้นไปยังที่สูง พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะรับคำเยินยอเกียรติจากทูตสวรรค์จวบจนกระทั่งพระองค์ทรงนำเสนอคำเรียกร้องว่า “ข้าพระองค์ปรารถนาให้คนเหล่านั้นที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ในที่ที่ข้าพระองค์อยู่นั้น” ยอห์น 17:24 และแล้วคำตอบจากบัลลังก์ของพระบิดาดังขึ้นมาด้วยความรักและอำนาจที่ไม่อาจบรรยายได้ว่า “ให้ทูตสวรรค์ทั้งหมดของพระเจ้ากราบนมัสการพระบุตร” ฮีบรู 1:6 ไม่มีรอยด่างพร้อยแม้เพียงรอยเดียวอยู่บนพระเยซู ความอัปยศอดสูของพระองค์สิ้นสุดลง การถวายบูชาของพระองค์สำเร็จบริบูรณ์ พระเจ้าทรงโปรดประทานพระนามหนึ่งให้พระองค์ซึ่งเหนือกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น {GC 501.3}GCth17 436.4
บัดนี้ความผิดของซาตานโดดเด่นขึ้นมาให้เห็นอย่างไม่มีข้อแก้ตัว มันถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นนิสัยที่แท้จริงของมันว่าเป็นผู้พูดปดและเป็นฆาตกร เป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วว่าวิญญาณเดียวกันที่มันใช้ปกครองเหล่าบุตรมนุษย์ทั้งหลายที่อยู่ภายใต้อำนาจของมันนั้นเป็นวิญญาณเดียวกันกับที่มันต้องการสำแดงหากมันเพียงได้รับอนุญาตให้ควบคุมชาวสวรรค์เหล่านั้น มันเคยอ้างว่าการล่วงละเมิดธรรมบัญญัติของพระเจ้าจะนำมาซึ่งเสรีภาพและความสูงส่ง แต่ผลที่ปรากฏออกมาให้เห็นคือการจองจำและความตกต่ำ {GC 502.1}GCth17 437.1
คำกล่าวหาอันหลอกลวงของซาตานที่มีต่อพระลักษณะและการปกครองของพระเจ้าปรากฏให้เห็นด้วยความสว่างที่แท้จริง มันกล่าวหาว่าพระเจ้าเพียงแต่แสวงหาที่จะยกตัวพระองค์เองให้สูงขึ้นด้วยการทรงเรียกร้องการยอมจำนนและการเชื่อฟังจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง และมันยังประกาศว่าในขณะที่พระผู้สร้างบังคับให้ผู้อื่นทั้งหมดละทิ้งตนเองนั้น พระองค์เองกลับไม่ยอมละทิ้งตนและไม่ยอมเสียสละ บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วว่าพระผู้ทรงครอบครองจักรวาลทรงเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ความรักจะกระทำได้เพื่อความรอดของมนุษยชาติที่ล้มลงในบาปและมีบาปหนา เพราะ “พระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกันกับพระองค์โดยพระคริสต์” 2 โครินธ์ 5:19 และยังเป็นที่ประจักษ์ด้วยว่าในขณะที่ลูซิเฟอร์เปิดประตูให้บาปเข้ามาด้วยความปรารถนาที่จะได้เกียรติยศและความยิ่งใหญ่นั้น พระคริสต์ทรงทำลายบาปด้วยการถ่อมพระองค์และเชื่อฟังจนถึงความมรณา {GC 502.2}GCth17 437.2
พระเจ้าทรงสำแดงให้เห็นถึงความเกลียดชังของพระองค์ที่ทรงมีต่อหลักการต่างๆ ของการกบฏ ชาวสวรรค์ทั้งปวงเห็นความยุติธรรมของพระองค์ที่ถูกเปิดเผยให้เห็นทั้งในการลงโทษซาตานและในการช่วยมนุษย์ให้รอดจากบาป ลูซิเฟอร์เคยประกาศว่าหากธรรมบัญญัติของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้และงดการลงโทษไม่ได้ ผู้ล่วงละเมิดทุกคนจะต้องถูกขวางกั้นให้ออกไปจากพระกรุณาธิคุณของพระผู้สร้างตลอดไป มันยังอ้างว่ามนุษยชาติที่บาปหนานี้อยู่ไกลเกินที่จะช่วยให้รอด ดังนั้นจึงเป็นเหยื่อโดยชอบธรรมของมัน แต่ความตายของพระคริสต์เป็นข้อโต้แย้งเพื่อเห็นแก่มนุษย์อย่างที่ไม่อาจล้มล้างไปได้ การลงโทษตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดได้ตกอยู่กับพระองค์ผู้ทรงมีฐานะเท่าเทียมกับพระเจ้า และมนุษย์มีอิสระที่จะรับความชอบธรรมของพระคริสต์ และด้วยการมีชีวิตที่สำนึกผิดและถ่อมตนเขาก็จะได้ชัยชนะเหมือนเช่นพระบุตรของพระเจ้าได้มีชัยชนะเหนืออำนาจของซาตานมาแล้ว ด้วยเหตุนี้พระเจ้าทรงยุติธรรมและกระนั้นยังทรงเป็นผู้กระทำให้ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูได้รับการทำให้เป็นผู้ชอบธรรมด้วย {GC 502.3}GCth17 437.3
แต่พระเยซูคริสต์เสด็จมายังโลกเพื่อรับทุกข์ทรมานและสิ้นพระชนม์ไม่ใช่เพียงเพื่อปฏิบัติกิจของการช่วยมนุษย์ให้รอดเท่านั้น พระองค์เสด็จมาเพื่อ “ทำให้ธรรมบัญญัตินั้นยิ่งใหญ่” และ “ทำให้พระธรรมนั้นมีเกียรติ” อิสยาห์ 42:21 ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในโลกนี้ถือรักษาธรรมบัญญัติของพระองค์ตามที่ควรจะต้องถือรักษาเท่านั้น แต่เพื่อสำแดงให้โลกทั้งปวงในจักรวาลมองเห็นว่าธรรมบัญญัติของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากปัดข้อกำหนดต่างๆ ของธรรมบัญญัติทิ้งไปได้แล้ว พระบุตรของพระเจ้าไม่จำเป็นต้องเสด็จมาสละชีวิตของพระองค์เพื่อไถ่การล่วงละเมิด การตายของพระคริสต์พิสูจน์ให้เห็นว่าธรรมบัญญัติของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และเครื่องถวายบูชาที่ซึ่งความรักอันไร้ขอบเขตผลักดันพระบิดาและพระบุตรเพื่อไถ่คนบาปให้รอดนั้นแสดงให้ทั่วทั้งจักรวาลเห็นว่าความยุติธรรมและพระเมตตาคุณของพระเจ้าเป็นรากฐานของธรรมบัญญัติและการปกครองของพระองค์ สิ่งใดที่น้อยกว่าแผนการแห่งการลบมลทินบาปนี้จะไม่เพียงพอที่จะทำได้ {GC 503.1}GCth17 438.1
ในการดำเนินการขั้นสุดท้ายของการพิพากษานั้น จะมองเห็นได้ว่าไม่มีสาเหตุของบาปคงอยู่อีกต่อไป เมื่อพระผู้ทรงพิพากษาทั้งโลกจะยื่นคำขาดกับซาตานว่า “ทำไมเจ้าจึงกบฏต่อเราและปล้นเอาคนของเราไปจากอาณาจักรของเรา” ผู้ให้กำเนิดความชั่วไม่อาจให้ข้อแก้ตัวได้ ทุกปากจะไม่มีคำพูดและผู้ร่วมกบฏจำนวนมากทั้งหมดจะพูดไม่ออก {GC 503.2}GCth17 438.2
ในขณะที่กางเขนคาลวารีประกาศว่าธรรมบัญญัติของพระเจ้านั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ กางเขนนี้ยังประกาศว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย ในเสียงร้องของพระผู้ช่วยขณะจะสิ้นประชนม์ว่า “สำเร็จแล้ว” นั้น ระฆังประกาศความตายของซาตานได้ดังขึ้น สงครามการต่อสู้ยิ่งใหญ่ซึ่งดำเนินมาเนิ่นนานถูกตัดสินแล้วและการถอนรากแห่งความชั่วถูกกำหนดไว้อย่างแน่นอนแล้ว พระบุตรของพระเจ้าทรงดำเนินผ่านประตูหลุมฝังศพเพื่อว่า “โดยทางความตายนั้น พระองค์จะทรงทำลายมารผู้มีอำนาจ” ฮีบรู 2:14 ความปรารถนาของลูซิเฟอร์ที่จะยกชูตัวเองขึ้นทำให้มันพูดว่า “ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้าเหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า..…ข้าจะทำให้ตัวของข้าเองเหมือนองค์ผู้สูงสุด” พระเจ้าทรงประกาศว่า “เราทำให้เจ้ากลายเป็นเถ้าถ่านบนพื้นโลก..…และจะไม่ดำรงต่อไปเป็นนิตย์” อิสยาห์ 14:13, 14 เอเสเคียล 28:18, 19 “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า นี่แน่ะ วันนั้นจะมาถึง คือวันที่จะเผาผลาญเหมือนเตาอบ เมื่อคนที่เย่อหยิ่งทั้งสิ้นและคนที่ประกอบการอธรรมทั้งหมดจะเป็นเหมือนตอข้าว วันที่จะมานั้นจะไหม้เขาหมดจนไม่มีรากหรือกิ่งเหลืออยู่เลย” มาลาคี 4:1 {GC 503.3}GCth17 438.3
ทั่วทั้งจักรวาลจะเป็นพยานเห็นถึงธรรมชาติและผลลัพธ์ต่างๆ ของบาป และในเรื่องการกำจัดบาปไปจนหมดสิ้นนั้น หากการกำจัดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก จะนำความหวาดกลัวมาให้กับทูตสวรรค์ทั้งหลายและนำการลบหลู่เกียรติมาสู่พระเจ้า แต่ณ บัดนี้ การกำจัดนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าและจัดวางพระเกียรติของพระองค์ไว้ต่อหน้าผู้ที่ยินดีปฏิบัติตามพระทัยของพระองค์และมีธรรมบัญญัติของพระองค์อยู่ในใจของเขา ความชั่วจะไม่ปรากฏอีก พระคำของพระเจ้ากล่าวไว้ว่า “ความทุกข์ยากจะไม่โผล่ขึ้นเป็นคำรบสอง” นาฮูม 1:9 พระบัญญัติของพระเจ้าที่ซาตานตำหนิว่าเป็นแอกแห่งการผูกมัดจะถูกเทิดทูนเป็นบัญญัติแห่งเสรีภาพ สรรพสิ่งแห่งการทรงสร้างทั้งปวงที่ผ่านการทดสอบและการพิสูจน์จะไม่หันเหไปจากความจงรักภักดีที่มีต่อพระเจ้า พระลักษณะของพระองค์นี้สำแดงไว้ต่อหน้าพวกเขาให้เห็นถึงความรักที่หยั่งไม่ถึงและพระปัญญาอันไร้ขอบเขตได้อย่างครบบริบูรณ์ {GC 504.1} GCth17 438.4