Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
อุทาหรณ์จากคำสอนของพระคริสต์ - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    กลางหนาม

    และเมล็ดซึ่งหว่านกลางหนามนั้นได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แต่ความกังวลของโลกและการล่อลวงของทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสียจึงไม่เกิดผล” มัทธิว 13:22 {COL 50.2}COLTh 24.5

    บ่อยครั้งเมล็ดข่าวประเสริฐตกลงสู่พื้นที่มีหนามและหญ้าที่มีพิษ และหากหัวใจมนุษย์ไม่เปลี่ยนแปลงในด้านศีลธรรม หากไม่ปล่อยนิสัยเดิมและพฤติกรรมเก่าและชีวิตในอดีตทิ้งไป หากไม่ขับคุณลักษณะของซาตานออกไปจากจิตวิญญาณ ต้นข้าวก็จะถูกรัด พงหนามจะกลายเป็นต้นพืชและทำลายต้นข้าว {COL 50.3}COLTh 25.1

    พระคุณจำเริญอยู่ได้เฉพาะในจิตใจที่เตรียมพร้อมเพื่อรองรับเมล็ดแห่งความจริงอันล้ำค่า หนามแห่งบาปจะเติบโตในเนื้อดินทุกสภาพ มันไม่ต้องการการดูแล แต่พระคุณนั้นจะต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง ไม้หนามและต้นหนามพร้อมเสมอที่จะผุดขึ้น และภาระงานของการชำระให้บริสุทธิ์จำต้องก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง หากจิตใจไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพระเจ้า หากพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้ประกอบกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อชำระและขัดเกลาอุปนิสัยแล้ว อุปนิสัยเก่าๆ จะปรากฏตัวเองขึ้นในชีวิตอีก มนุษย์อาจแสดงตัวว่าเชื่อข่าวประเสริฐ แต่หากเขาไม่ได้รับการชำระโดยข่าวประเสริฐแล้ว การเป็นผู้เชื่อก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเขาไม่มีชัยชนะเหนือบาปแล้วบาปก็จะมีชัยเหนือเขา ต้นหนามที่ถูกตัดแต่ไม่ได้ถูกถอนรากถอนโคนก็จะเจริญขึ้นโดยเร็ว ในที่สุดมันจะปกคลุมจิตวิญญาณจนหมดสิ้น {COL 50.4}COLTh 25.2

    พระคริสต์ทรงเน้นให้เห็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณ ตามที่มาระโกบันทึกไว้ พระองค์ทรงกล่าวถึงความกังวลของโลกนี้ ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติและความโลภในสิ่งต่างๆ ลูการะบุถึงความกังวลทรัพย์สมบัติและความสนุกสนานของชีวิตนี้ สิ่งเหล่านี้รัดพระวจนะซึ่งเป็นเมล็ดฝ่ายจิตวิญญาณที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นมา จิตใจไม่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระคริสต์และในที่สุดชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณตายไปจากหัวใจ {COL 51.1} COLTh 25.3

    ความกังวลของโลก ” มาระโก 4: 19 ไม่มีชนกลุ่มใดที่หลุดพ้นจากการทดลองในเรื่องของความกังวลของโลก สำหรับคนยากจน ความทุกข์ยากและความขัดสนและความกลัวต่อการขาดแคลน ทำให้เกิดความกังวลและเป็นภาระ สำหรับคนมั่งมีจะมีความกลัวเรื่องการสูญเสีย และความห่วงใยวิตกกังวลมากมาย ผู้ติดตามพระคริสต์หลายคนลืมบทเรียนที่พระองค์ทรงสอนให้เราเรียนรู้จากดอกไม้ในทุ่งนา พวกเขาไม่ได้วางใจในการดูแลอย่างสม่ำเสมอของพระองค์ พระคริสต์ช่วยรับภาระของพวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้มอบภาระไว้กับพระองค์ ดังนั้นภาระแห่งชีวิตซึ่งควรผลักดันพวกเขาให้ไปทูลขอความช่วยเหลือ และคำปลอบประโลมใจจากพระองค์จึงกลายเป็นสิ่งที่แยกตัวพวกเขาออกจากพระองค์ไป {COL 51.2}COLTh 25.4

    มีหลายคนน่าจะทำงานรับใช้พระเจ้าได้อย่างบังเกิดผล แต่กลับหมกมุ่นอยู่กับการหาทรัพย์สมบัติ พวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับธุรกิจ และพวกเขารู้สึกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องละสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงแยกตัวเองออกจากพระเจ้า เราได้รับคำบัญชาในพระคัมภีร์ว่า “อย่าอ่อนระอา จงมีจิตใจกระตือรือร้น” โรม 12:11 เราควรทำงานเพื่อสามารถแบ่งปันให้กับผู้ที่ขัดสน คริสเตียนต้องทำงาน พวกเขาควรดำเนินธุรกิจและทำสิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่กระทำบาป แต่มีหลายคนที่ทุ่มเทให้กับธุรกิจมากจนกระทั่งไม่มีเวลาสำหรับการอธิษฐาน ไม่มีเวลาสำหรับการศึกษาพระคัมภีร์ ไม่มีเวลาที่จะแสวงหาและรับใช้พระเจ้า มีบางครั้งจิตใจหวนคิดถึงความบริสุทธิ์และแผ่นดินสวรรค์ แต่ไม่มีเวลาที่จะหยุดพักจากเสียงอึกทึกของโลกนี้มาสู่พระสุรเสียงที่มีสิทธิอำนาจของพระวิญญาณของพระเจ้า สิ่งอันเป็นนิรันดร์กลายเป็นเรื่องรอง ส่วนสิ่งในโลกนี้กลับเป็นเอก เมล็ดแห่งพระวจนะเกิดผลไม่ได้ เพราะเขาใช้ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณเลี้ยงดูต้นหนามของทางโลก {COL 51.3}COLTh 26.1

    มีหลายคนทำงานด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน พวกเขาก็ตกอยู่ในสภาพความผิดพลาดอย่างเดียวกัน พวกเขาทำงานเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น หน้าที่บีบบังคับพวกเขาไว้ พวกเขาต้องรับผิดชอบงานหลายอย่างและปล่อยให้การงานทำให้ไม่มีเวลาเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระเจ้า พวกเขาละเลยการติดต่อสัมพันธ์กับพระเจ้า โดยการอธิษฐานและการศึกษาพระธรรม เขาลืมไปว่าพระคริสต์เคยตรัส “ ถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” ยอห์น 15:5 พวกเขาดำเนินชีวิตเหินห่างจากพระคริสต์ ชีวิตของพวกเขาขาดจากพระคุณ และนิสัยที่เห็นแก่ตัวจึงปรากฏออกมาให้เห็น ความอยากมีอำนาจและคุณสมบัติหยาบกร้านของหัวใจไม่ยอมอยู่ใต้บังคับ ทำให้การปรนนิบัติรับใช้ของเขาเสื่อม นี่คือเคล็ดลับสำคัญของความล้มเหลวในการงานของคริสเตียน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผลงานที่ได้รับจึงน้อยนัก {COL 52.1}COLTh 26.2

    ความล่อลวงของทรัพย์สมบัติ” มัทธิว 13:12 การรักทรัพย์สมบัติมีอำนาจลุ่มหลงหลอกลวง บ่อยครั้ง คนที่มีทรัพย์สมบัติทางโลกลืมว่า พระเจ้าเป็นผู้ประทานกำลังให้เขาได้รับความมั่งคั่ง เขากล่าวว่า “ กำลังและเรี่ยวแรงของข้านำทรัพย์มีค่านี้มาให้ข้า” เฉลยธรรมบัญญัติ 8:17 แทนที่ความมั่งคั่งของเขาจะกระตุ้นให้เกิดความสำนึกในพระคุณของพระเจ้า มันกลับนำเขาไปสู่การยกยอตัวเอง เขาลืมพึ่งพาในพระเจ้า และหน้าที่ที่ควรมีต่อเพื่อนมนุษย์ แทนที่จะคิดว่าความร่ำรวยเป็นตะลันต์ที่ควรนำมาถวายเกียรติพระเจ้าและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ พวกเขากลับมองว่าเป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับตัวเอง แทนที่จะช่วยพัฒนาให้มนุษย์มีคุณลักษณะของพระเจ้า ความมั่งคั่งนั้นกลับก่อให้เกิดคุณลักษณะของซาตาน เมล็ดพืชแห่งพระวจนะจึงถูกรัดด้วยพงหนาม {COL 52.2}COLTh 27.1

    ความสนุกสนานของชีวิตนี้” ลูกา 8:14 ความบันเทิงที่ได้มาเพียงเพื่อบำบัดความปรารถนาของตนเองเป็นภัยอันตราย นิสัยทุกอย่างที่ทำให้กำลังฝ่ายร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ความคิดไม่ปลอดโปร่งหรือสิ่งที่ทำให้การรับรู้ฝ่ายจิตวิญญาณมึนงง คือ “ ตัณหาของเนื้อหนังซึ่งต่อสู้กับวิญญาณจิต” 1 เปโตร 2:11 {COL 53.1} COLTh 27.2

    และความโลภในสิ่งต่างๆ ” มาระโก 4:19 สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เป็นบาปโดยตัวของมันเอง แต่เป็นสิ่งที่เรายกไว้ให้เป็นอันดับแรกไปแทนที่อาณาจักรของพระเจ้า อะไรก็ตามที่ดึงดูดความคิดให้ออกจากพระเจ้า สิ่งใดก็ตามที่ดึงมนุษย์ออกจากความสนิทสนมกับพระคริสต์ก็เป็นข้าศึกของจิตวิญญาณ {COL 53.2}COLTh 27.3

    เมื่อความคิดยังเยาว์วัยและตื่นตัวอยู่ และมีศักยภาพในการพัฒนาได้รวดเร็ว การทดลองยิ่งใหญ่ที่มักจะพบ คือความทะเยอทะยานเพื่อตัวเองและทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง หากอุบายทางโลกสัมฤทธิ์ผลแล้ว จะมีแนวโน้มดำเนินไปในทางที่จะทำให้จิตใต้สำนึกตายด้าน และขัดขวางการประเมินว่าสิ่งใดเป็นส่วนประกอบของอุปนิสัยที่ดีเลิศอันแท้จริงได้อย่างถูกต้อง เมื่อภาวการณ์เป็นไปในทางที่สนับสนุนการพัฒนาเช่นนี้ การเติบโตขึ้นก็จะเป็นไปในทางที่พระวจนะของพระเจ้าห้ามไว้ {COL 53.3}COLTh 27.4

    ในช่วงเวลาการเจริญวัยของชีวิตในวัยเด็ก พ่อแม่มีหน้าที่รับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ บิดามารดาควรศึกษาหาสภาพแวดล้อมของอิทธิพลที่ดี อิทธิพลช่วยให้เยาวชนรู้จักมุมมองของชีวิตที่ถูกต้อง และความหมายของความสำเร็จอันแท้จริง แทนที่จะกระทำเช่นนี้ บิดามารดาจำนวนสักกี่คนกลับสร้างเป้าหมายอันดับแรกด้วยการแสวงหาความมั่งคั่งร่ำรวยฝ่ายโลกให้กับบุตรของตน บุคคลที่เขาให้เข้าสังคมด้วยล้วนเป็นคนผ่านการคัดเลือกด้วยจุดประสงค์นี้ พ่อแม่จำนวนมากเลือกสร้างบ้านของตนในเมืองใหญ่ และแนะนำบุตรของตนให้เข้าสังคมที่ทันสมัย เขาปล่อยให้บุตรของตนถูกห้อมล้อมด้วยอิทธิพลที่สนับสนุนทางฝ่ายโลก และความหยิ่งยโส ในสภาพของบรรยากาศเช่นนี้ ความคิดและจิตวิญญาณถดถอย เป้าหมายอันสูงและมีคุณค่าในชีวิตจึงหลุดไปจากสายตา สิทธิพิเศษในการเป็นบุตรของพระเจ้า และเป็นทายาทแห่งชีวิตนิรันดร์จึงถูกแลกกับสิ่งของทางโลก {COL 53.4}COLTh 28.1

    บิดามารดาจำนวนมากไขว่คว้าที่จะส่งเสริมความสุขของบุตรของตนโดยการตามใจบุตรให้ชอบความสนุกบันเทิง พวกเขาอนุญาตให้บุตรเข้าเล่นในกีฬาและร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์และให้ใช้เงินอย่างเต็มที่เพื่ออวดเพื่อนและทำตามอำเภอใจ การปล่อยตามใจปรารถนาให้มีความสนุกสนานมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้พวกเขาอยากใช้ชีวิตอย่างนี้มากยิ่งขึ้น ความสนใจของวัยรุ่นเหล่านี้จึงหลงอยู่กับความสนุกสนานจนกระทั่งยกสิ่งนี้ให้เป็นเป้าหมายสำคัญของชีวิต พวกเขาเพาะนิสัยความเกียจคร้านและทำตามใจตนเองจนกระทั่งไม่มีทางที่จะเป็นคริสเตียนที่มีความเชื่อมั่นคงได้ {COL 54.1}COLTh 28.2

    แม้ในคริสตจักรซึ่งควรเป็นเสาหลักและแหล่งของความจริงยังพบว่าให้การสนับสนุนการรักความสนุกสนานที่เห็นแก่ตัว ยามที่ต้องการจัดหาเงินทุนเพื่อกิจการด้านศาสนา คริสตจักรหันไปพึ่งพาวิธีใดบ้าง พวกเขาจัดตลาดนัดขายของ จัดเลี้ยงอาหาร งานรื่นเริง แม้กระทั่งสลากกินแบ่งและวิธีอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน บ่อยครั้งสถานที่ซึ่งได้รับการจัดไว้สำหรับการนมัสการพระเจ้า โดยเฉพาะ ต้องหมดความศักดิ์สิทธิ์ไปด้วยงานเลี้ยงและการกินดื่ม การซื้อ การขาย และงานบันเทิง ในความคิดของเยาวชน ความเคารพต่อวิหารของพระเจ้าและการถวายเกียรติต่อที่ประชุมนมัสการพระองค์ก็ลดความสำคัญลง ป้อมปราการแห่งการยับยั้งตนอ่อนกำลังลง ความเห็นแก่ตัว ความกระหาย การอวดตัวกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ และเมื่อยิ่งทำสิ่งนี้มากเท่าใดก็ยิ่งปล่อยตัวปล่อยใจมากขึ้นเท่านั้น {COL 54.2}COLTh 28.3

    แหล่งของความสนุกสนานและความบันเทิงมีศูนย์กลางในเมืองใหญ่ บิดามารดาหลายท่านเลือกอาศัยอยู่ในเมือง โดยคิดว่าจะเป็นข้อได้เปรียบสำหรับบุตรของตน พวกเขากลับต้องพบกับความผิดหวังและสายเกินไปที่จะกลับใจจากความผิดพลาดอันเลวร้ายนี้ เมืองต่างๆ ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นเสมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์อย่างรวดเร็ว วันหยุดราชการที่มีอยู่มากมายช่วยส่งเสริมความเกียจคร้าน กีฬาที่น่าตื่นเต้น เช่น การชมภาพยนตร์ การแข่งม้า การพนัน การดื่มสุรา และความบันเทิงล้วนกระตุ้นตัณหาให้ทำในกิจกรรมที่รุนแรงขึ้น เยาวชนจึงถูกพัดไปตามกระแสแห่งสมัยนิยม ผู้ที่เรียนรู้การรักความสนุกสนานเปิดประตูให้คลื่นแห่งการทดลองไหลบ่าเข้ามา พวกเขาปล่อยตัวเองไปกับงานสังคมและงานสังสรรค์ และการคบค้าสมาคมกับผู้ที่รักความสนุกสนานมีผลทำให้มอมเมาความคิด พวกเขาถูกชักจูงให้เป็นคนสำมะเลเทเมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งสูญเสียความปรารถนา และกำลังความสามารถที่จะใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ ความหวังใจฝ่ายศาสนาเย็นชาไป ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณมืดไป สิ่งที่มีค่าในจิตวิญญาณ สิ่งที่เชื่อมโยงมนุษย์กับโลกฝ่ายจิตวิญญาณเสื่อมไป {COL 54.3}COLTh 29.1

    จริงอยู่ที่มีบางคนมองเห็นความผิดพลาดของตนและกลับใจ พระเจ้าทรงอภัยเขาได้ แต่เขาทำร้ายจิตวิญญาณของตนไปแล้ว และนำหายนะที่มีผลต่อตนเองไปตลอดชีวิต อำนาจในการแยกแยะซึ่งควรถนอมไว้อย่างขะมักเขม้นและไวต่อความผิด ความถูก ถูกทำลายไปเสียส่วนใหญ่ พวกเขาขาดความว่องไวในการรับฟังเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือมองไม่เห็นกลลวงของซาตาน บ่อยครั้งในภาวะอันตราย พวกเขาก็ตกอยู่ในการทดลองและถูกชักนำไปจากพระเจ้า ผลลัพธ์สุดท้ายของชีวิตที่รักความเพลิดเพลินสนุกสนานก็คือความหายนะทั้งในโลกนี้และโลกหน้า {COL 55.1}COLTh 29.2

    ความวิตกกังวล ความร่ำรวย ความสนุกสนาน ล้วนเป็นสิ่งที่ซาตานนำมาใช้ในเกมส์ชีวิตของจิตวิญญาณมนุษย์ มีคำตักเตือนกล่าวไว้ว่า “อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าใครรักโลก ความรักของพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น เพราะว่าทุกสิ่งที่อยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนังและตัณหาของตา และความทะนงในลาภยศไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลก” 1 ยอห์น 2:15-16 พระองค์ผู้ทรงอ่านจิตใจของมนุษย์เหมือนอ่านหนังสือที่เปิดออกตรัสว่า “จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าใจของท่านจะเต็มล้นไปด้วยการเสเพล การเมาเหล้า และการห่วงกังวลถึงชีวิตนี้” ลูกา 21:34 และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจให้อัครทูตเปาโลเขียนว่า “ส่วนพวกที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในการล่อลวงและกับดักของความอยากมากมายที่โง่เขลาและอันตราย ซึ่งฉุดคนเราให้ลงไปพินาศและความย่อยยับ เพราะว่าการรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองนี้ที่ทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์มากมาย” 1 ทิโมธี 6:9, 10 {COL 55.2}COLTh 30.1

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents