Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
อุทาหรณ์จากคำสอนของพระคริสต์ - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    เวลา

    เวลาของเราเป็นของพระเจ้า ทุกนาทีเป็นของพระองค์และเราอยู่ภายใต้หน้าที่ที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเวลาให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ ในจำนวนของประทานนั้น ไม่มีตะลันต์ใดที่พระองค์ทรงเรียกตรวจสอบอย่างเข้มงวดเท่ากับเวลาของเรา {COL 342.1}COLTh 304.1

    เวลามีค่าเหลือคณานับ พระคริสต์ทรงถือว่าเวลาทุกนาทีเป็นของมีค่า และด้วยเหตุผลนี้เราจึงต้องเอาใจใส่ในทำนองนี้เหมือนกัน ชีวิตสั้นเกินไปที่จะปล่อยให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เรามีเวลาไม่มากนักก่อนที่ประตูพระกรุณาจะปิดเพื่อการเตรียมตัวสำหรับชีวิตนิรันดร์ เราไม่มีเวลาที่จะสูญเสียอีกแล้ว ไม่มีเวลาใช้เพื่อความสุขอย่างเห็นแก่ตัว ไม่มีเวลาเพื่อปล่อยตัวทำบาป เดี๋ยวนี้เป็นเวลาเพื่อสร้างอุปนิสัยสำหรับชีวิตอมตะในภายภาคหน้า นี่เป็นเวลาที่เราต้องเตรียมตัวก่อนการพิพากษาตรวจสอบ {COL 342.2}COLTh 304.2

    ครอบครัวของมนุษย์ยังไม่ทันเริ่มใช้ชีวิตเลย เขาก็เข้าสู่ความตายเสียแล้ว และการทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนของโลกนี้ก็จะต้องสิ้นสุดในความว่างเปล่า นอกเสียจากว่าได้รับความรู้อย่างแท้จริงในเรื่องของชีวิตนิรันดร์ ผู้ที่รู้จักคุณค่าของเวลาในการทำงานแต่ละวันจะมีความเหมาะสมที่จะไปอยู่ปราสาทและรับชีวิตอมตะตลอดไป การที่เขาเกิดมาในโลกนี้จึงเป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก {COL 342.3}COLTh 304.3

    เราได้รับการเตือนให้รู้จักกู้เวลาคืนมา แต่เวลาที่เสียไปอย่างไม่รู้จักคุณค่านั้นไม่สามารถนำกลับคืนมาได้อีกแม้แต่นาทีเดียว วิธีเดียวที่เรากู้คืนเวลาของเราได้คือการใช้เวลาที่เหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยร่วมงานกับพระเจ้าในแผนการแห่งการช่วยให้รอดอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ {COL 342.4} COLTh 304.4

    สำหรับผู้ที่เข้าร่วมทำงานนี้ อุปนิสัยจะเปลี่ยนไป เขามาเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นสมาชิกครอบครัวแห่งพระราชวงศ์ เป็นบุตรของกษัตริย์แห่งเมืองสวรรค์ จึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นมิตรสหายของทูตสวรรค์ {COL 342.5}COLTh 304.5

    ขณะนี้เป็นเวลาของการทำงานเพื่อความรอดของเพื่อนมนุษย์ มีบางคนคิดว่าการถวายทรัพย์เพื่องานของพระองค์นั้นก็เพียงพอ และถือว่าครอบคลุมทุกสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกให้ทำ เวลาอันมีค่าที่เขาเหล่านี้ควรใช้เป็นการส่วนตัวเพื่องานของพระองค์ผ่านไปโดยไม่ได้รับการยอมรับ แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และแข็งแรงที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าอย่างจริงจัง ทุกคนควรทำงานเพื่อนำจิตวิญญาณของคนทั้งหลายกลับมาหาพระคริสต์ การถวายทรัพย์จึงทดแทนการรับใช้ไม่ได้ {COL 343.1} COLTh 305.1

    เวลาทุกนาทีแบกรับภาระที่มีผลต่อสิ่งอันเป็นนิรันดร์ เราควรยืนคอยเหมือนผู้รับใช้พร้อมเข้ารับงานเมื่อได้รับคำสั่ง โอกาสที่เรารับในขณะนี้มีไว้เพื่อที่จะพูดเรื่องของพระวจนะแห่งชีวิตให้กับจิตวิญญาณที่กำลังรอคอย โอกาสเช่นนี้อาจจะไม่กลับมาหาเราอีก พระเจ้าอาจจะตรัสกับเขาว่า “ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า” ลูกา 12:20 และโดยการละเลยของเราเขาอาจจะไม่พร้อม ในวันแห่งการพิพากษาที่ยิ่งใหญ่ เราจะแก้ตัวกับพระเจ้าอย่างไร {COL 343.2} COLTh 305.2

    ชีวิตมีความสำคัญอย่างมากยิ่ง เกินกว่าที่เราจะสนใจแต่ในเรื่องของโลกและสิ่งของในโลก การวนเวียนอยู่ในความกังวลและวุ่นวายอยู่กับสิ่งซึ่งมีความสำคัญน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่น่าสนใจที่เป็นนิรันดร์ ถึงกระนั้น พระเจ้าทรงเรียกให้เราทำงานรับใช้พระองค์ในเรื่องของชีวิตฝ่ายโลก ความขยันในการงานเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาที่แท้จริงเสมอเหมือนการเสียสละอุทิศตน พระคัมภีร์ไม่สนับสนุนการมีชีวิตอยู่อย่างไร้จุดหมาย เป็นคำสาปแช่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเรา ชายและหญิงทุกคนที่กลับใจใหม่อย่างแท้จริงแล้วจะเป็นผู้รับใช้ขยันที่สุด {COL 343.3}COLTh 305.3

    การรู้จักปรับปรุงการใช้เวลาขึ้นกับความสำเร็จของการได้มาซึ่งความรู้และปัญญา ไม่ควรให้ความยากจน ความต่ำต้อยของชาติกำเนิดหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวยเป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนทางสติปัญญา เวลาทุกนาทีมีค่าที่เราต้องรักษา การใช้เวลาที่นี่นิด ที่นั่นหน่อยในการพูดคุยที่ไร้สาระ การเสียเวลาในตอนเช้าโดยการนอนไม่ลุกจากเตียง เวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยรถประจำทางและรถไฟ หรือการยืนคอยที่สถานี การเข้าแถวคอยอาหาร การรอคอยผู้ที่มาไม่ตรงตามเวลานัด ในช่วงเวลาน้อยนิดที่มีนี้ หากเรามีหนังสือติดมือก็จะช่วยในการศึกษาและไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ได้ เป็นการรู้จักใช้เวลาทำสิ่งที่บางครั้งไม่มีเวลาพอที่จะทำ ความตั้งใจที่แน่วแน่ ความขยันที่ไม่หยุดหย่อนและรู้จักระมัดระวังในการประหยัดเวลาจะสามารถทำให้มนุษย์ได้มาซึ่งความรู้และวินัยของความคิด ซึ่งทำให้เรามีคุณสมบัติเข้ารับตำแหน่งการทำงานที่มีอำนาจและเป็นประโยชน์ {COL 343.4}COLTh 305.4

    คริสเตียนทุกคนมีหน้าที่แสวงหานิสัยของความมีระเบียบ มีความละเอียดรอบคอบและว่องไว ไม่มีข้อแก้ตัวใดสำหรับคนที่เชื่องช้าในการทำงานทุกชนิด การมีงานทำอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่เคยทำงานเสร็จสักทีนั้นก็เนื่องมาจากความคิดและจิตใจไม่ได้อยู่กับงาน ผู้ที่ทำงานช้าและทำงานที่ไม่เกิดประโยชน์ควรตระหนักว่าจะต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ถูกต้อง เขาจะต้องฝึกความคิดในการวางแผนวิธีการใช้เวลาเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดด้วยความสามารถและการวางแผนอย่างดี บางคนทำงานในห้าชั่วโมงได้เท่ากับผู้อื่นทำในสิบชั่วโมง บางคนทำงานบ้านได้ทั้งวันไม่ใช่เพราะเขามีงานทำมากแต่เพราะเขาไม่ได้วางแผนเพื่อประหยัดเวลา ความเชื่องช้าและยึดยาดทำให้เสียเวลามากแต่ได้ผลงานน้อย แต่สำหรับทุกคนที่ตั้งใจ เขาเอาชนะนิสัยเถลไถล ยืดยาดได้ ให้เขาตั้งเป้าหมายที่แน่นอนในงานของตน รู้จักการจัดเวลาสำหรับงานนั้นๆ การฝึกพลังแห่งความตั้งใจจะทำให้มือทำงานด้วยความคล่องแคล่ว {COL 344.1}COLTh 306.1

    ด้วยการขาดความตั้งใจในการควบคุมและปฏิรูปตัวเอง ทำให้คนทำในสิ่งที่ผิดจนเป็นนิสัย แต่หากพวกเขารู้จักพัฒนาพลังของเขาแล้ว พวกก็จะได้มาซึ่งความสามารถเพื่อรับใช้ที่ดีที่สุด แล้วก็จะพบว่าตนเองเป็นที่ต้องการในทุกแห่ง พวกเขาจะเป็นที่ยอมรับของทุกคนในคุณค่าของความสามารถที่เขามี {COL 344.2}COLTh 306.2

    เด็กและคนหนุ่มสาวมากมายน่าจะใช้เวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ทำงานบ้านและด้วยการทำเช่นนี้ พวกเขาแสดงความรักความเอาใจใส่ต่อคุณพ่อคุณแม่ เยาวชนควรจะใช้กำลังของความเป็นหนุ่มสาวเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของคนในครอบครัว {COL 345.1} ชีวิตในวัยเยาว์ของพระคริสต์เป็นชีวิตของการทำงานอย่างจริงจัง พระองค์ทรงดำรงชีวิตอยู่ไม่ใช่เพื่อตนเอง พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ถึงกระนั้นก็ตาม พระองค์ทรงประกอบกิจการช่างไม้ร่วมกับโยเซฟผู้เป็นบิดา กิจการที่พระองค์ทรงทำนั้นมีความหมาย พระองค์เสด็จมายังโลกในฐานะเป็นผู้สร้างอุปนิสัยและด้วยการกระทำนี้ ภารกิจของพระองค์สมบูรณ์ ในการทำงานทางฝ่ายโลก พระองค์ทรงนำอำนาจของความเป็นพระเจ้าอันสมบูรณ์พร้อมเช่นเดียวกันกับที่ใช้ในด้านการเปลี่ยนแปลงพระอุปนิสัยมาใช้ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของเรา {COL 345.2}COLTh 306.3

    บิดามารดาจะต้องสอนลูกๆ ทั้งหลายในเรื่องคุณค่าและการใช้เวลาในทางที่ถูก สอนพวกเขาว่าจะต้องพยายามทำสิ่งที่ถวายเกียรติพระเจ้าและเป็นพระพรแก่เพื่อนมนุษย์ แม้ในวัยเด็กพวกเขาทำงานเป็นผู้รับใช้พระเจ้าได้ {COL 345.3} COLTh 307.1

    ไม่มีบาปใดที่บิดามารดาทำจะยิ่งใหญ่กว่าบาปที่ปล่อยให้ลูกของพวกเขาไม่มีอะไรทำ ในไม่ช้าเด็กๆ เหล่านี้เรียนรู้ที่จะชื่นชอบกับนิสัยของความเกียจคร้าน และจะเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาวที่เฉื่อยชาและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้การไม่ได้ เมื่อเติบโตถึงวัยทำงานเลี้ยงชีพก็จะทำงานอย่างเกียจคร้านและเชื่องช้าคอยแต่หวังที่จะได้ค่าจ้างมากราวกับว่าทำงานอย่างขยันขันแข็ง คนงานจำพวกนี้มีความแตกต่างเป็นอย่างมากจากผู้ที่ตระหนักว่าตนเป็นผู้อารักขาที่ซื่อสัตย์ {COL 345.4} COLTh 307.2

    พวกเขาจะนำนิสัยการทำงานทางฝ่ายโลกอย่างเกียจคร้านและขาดการเอาใจใส่เข้ามายังชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ และจะทำให้คนนั้นไม่เหมาะที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าอย่างมีประสิทธิภาพ มีคนเป็นจำนวนมากน่าจะทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อเป็นพระพรแก่โลกนี้ได้นั้นกลับถูกทำลายลงด้วยการอยู่อย่างเกียจคร้าน การไม่มีงานทำและการขาดจุดมุ่งหมายชีวิตที่แน่นอนเปิดประตูให้กับการล่อลวงนับพัน มิตรชั่วและนิสัยเลวร้ายทำให้สมองและจิตวิญญาณเสื่อม และส่งผลของการทำลายต่อทั้งชีวิตนี้และชีวิตหน้าที่จะมาถึง {COL 345.5}COLTh 307.3

    ไม่ว่าเราจะทำงานใดก็ตามพระวจนะของพระเจ้าสอนเราว่า “อย่าอ่อนระอา จงมีจิตใจกระตือรือร้นด้วยพระวิญญาณ จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า” “มือของเจ้าจับงานอะไร ก็จงทำการนั้นด้วยเต็มกำลัง” “ท่านทั้งหลายก็รู้ว่า ท่านจะได้รับมรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบำเหน็จ เพราะท่านกำลังรับใช้พระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่” โรม 12:11 ปัญญาจารย์ 9:10 โคโลสี 3:24 {COL 346.1}COLTh 308.1

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents