Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
อุทาหรณ์จากคำสอนของพระคริสต์ - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    แกะหลงหาย

    เวลานี้ พระคริสต์ไม่ได้ทรงเตือนสติผู้ฟังของพระองค์ถึงคำสอนของพระคัมภีร์ แต่พระองค์ทรงร้องขอให้พวกเขาดูจากพยานของประสบการณ์ของพวกเขาเอง ผืนดินราบเรียบอันกว้างใหญ่ไพศาลทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนเป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ของฝูงสัตว์ และในหุบเขาที่มีน้ำไหลผ่านและบนเนินเขาอันอุดมด้วยป่าไม้มีแกะหลงหายมากมายเดินเร่ร่อนอยู่ ซึ่งกำลังรอคอยการค้นหาของผู้เลี้ยงเพื่อนำไปอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ท่ามกลางฝูงชนที่ล้อมรอบพระเยซูนั้น มีผู้เลี้ยงแกะ และผู้ที่นำเงินลงทุนเลี้ยงฝูงสัตว์เหล่านั้นและทุกคนก็ชื่นชอบกับภาพประกอบของพระองค์ “ใครในพวกท่านที่มีแกะร้อยตัวและตัวหนึ่งหลงหายไป จะไม่ทิ้งเก้าสิบเก้าตัวนั้นไว้ที่กลางทุ่งหญ้าแล้วออกไปตามหาตัวที่หายไปนั้นจนกว่าจะพบหรือ ” ลูกา 15:2 {COL 186.4}COLTh 153.1

    พระเยซูตรัสว่า จิตวิญญาณเหล่านี้ที่ท่านดูหมิ่นเป็นสมบัติของพระเจ้า คนเหล่านี้มีค่าในสายพระเนตรของพระองค์ ทั้งโดยการสร้างและโดยการไถ่ ดังเช่นผู้เลี้ยงแกะรักแกะของเขา พระเจ้าทรงรักจิตวิญญาณที่ถูกทอดทิ้งด้วยความรักที่สูงส่งกว่านี้เพียงไร มนุษย์อาจปฏิเสธการเรียกร้องจากความรักของพระองค์ พวกเขาอาจจะหนีออกห่างไปจากพระองค์ อาจเลือกเจ้านายคนอื่น ถึงกระนั้นก็ตามเขาเป็นของพระองค์และพระองค์ทรงหวังที่จะให้คนของพระองค์กลับมา พระองค์ตรัสว่า “เหมือนผู้เลี้ยงแกะเสาะหาฝูงแกะเมื่อเขาอยู่ท่ามกลางแกะของเขาที่กระจัดกระจายไป เราก็จะเสาะหาแกะของเราเช่นนั้น และเราจะช่วยพวกแกะให้รอดพ้นจากสถานที่ทั้งหลายซึ่งพวกเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่เมื่อวันที่มีเมฆและมึดทึบ” เอเศเคียล 34:12 {COL 187.1}COLTh 153.2

    ผู้เลี้ยงแกะในอุปมาออกไปหาแกะตัวเดียว แม้จะเป็นเพียงหนึ่งตัว แต่ก็ยังนับว่ามีค่า ฉะนั้นหากมีจิตวิญญาณเพียงดวงเดียวที่หลงหาย พระคริสต์ก็พร้อมจะตายแทนที่เพื่อจิตวิญญาณดวงนี้ {COL 187.2}COLTh 153.3

    แกะที่หลงไปจากฝูงเป็นสัตว์ที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย ผู้เลี้ยงจะต้องตามหามัน เพราะมันไม่หาทางกลับไม่ได้ จิตวิญญาณที่หลงหายไปจากพระเจ้าก็เช่นกัน พวกเขาเป็นเหมือนแกะที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอกจากการได้รับการช่วยเหลือจากความรักของพระเจ้าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่มีทางกลับไปหาพระเจ้าได้ {COL 187.3}COLTh 154.1

    เมื่อผู้เลี้ยงแกะพบว่าแกะของเขาหายไปหนึ่งตัว เขาไม่ได้มองดูแกะที่อยู่อย่างปลอดภัยในคอกและพูดว่า “เรามีแกะตั้งเก้าสิบเก้าตัว การออกตามหาแกะเพียงตัวเดียวที่หลงไปนั้นจะนำความยุ่งยากมาให้เรามากเกินไป ปล่อยให้มันกลับมาเอง และเราจะเปิดประตูคอกแกะและให้มันเข้ามาเอง” แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เวลาไม่นานนักหลังจากที่ทราบว่าแกะหาย ผู้เลี้ยงแกะก็มีความทุกข์และกังวลใจ เขานับฝูงแกะซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อเขาแน่ใจว่ามีตัวหนึ่งหาย เขานอนหลับไม่ได้ เขาละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้ในคอกและออกตามหาตัวที่หาย ค่ำคืนยิ่งมืดและยิ่งน่ากลัวมากเท่าไร ทางนั้นยิ่งอันตรายมากอย่างไรผู้เลี้ยงแกะจะมีความกังวลมากขึ้นเท่านั้น และจะค้นหาอย่างเอาจริงเอาจังมากขึ้น เขาใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาแกะตัวเดียวที่หายไป {COL 187.4}COLTh 154.2

    เมื่อเขาได้ยินเสียงร้องอันแผ่วเบามาแต่ไกลในครั้งแรก เขาก็รู้สึกโล่งอก เขาตามเสียงนั้นไปโดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยง เขาปีนป่ายไปตามที่สูงชัน ไปยังริมหน้าผา เขาค้นหาไป เสียงร้องที่แผ่วเบาลงบ่งบอกว่าแกะของเขากำลังจะตาย ในที่สุดความพยายามของเขาก็ได้รับการตอบสนอง เขาพบแกะที่หายไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าแกะที่ทำให้เขาได้รับความยุ่งยากลำบาก ไม่ได้ใช้แส้ไล่ตีให้มันลุกเดิน ผู้เลี้ยงไม่ได้พยายามแม้แต่จะลากจูงมันกลับบ้าน เขาอุ้มสัตว์ที่ตัวสั่นเทาขึ้นพาดบนบ่าด้วยความยินดี หากมันรับบาดเจ็บหรือฟกช้ำ เขาก็อุ้มมันไว้กับอ้อมแขน กอดมันแนบหน้าอกเพื่อให้มันรับความอบอุ่นจากหัวใจของเขา เพื่อให้ชีวิตแก่มันอีกครั้ง ผู้เลี้ยงมีความยินดีปรีดาที่การค้นหาของตนไม่สูญเปล่า จึงอุ้มมันกลับไปยังฝูงแกะอีกครั้ง {COL 188.1}COLTh 154.3

    ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ไม่ได้เสนอให้เราเห็นภาพผู้เลี้ยงแกะที่เศร้าหมองกลับบ้านโดยไม่มีแกะ อุปมาไม่ได้กล่าวถึงความล้มเหลวแต่พูดถึงความสำเร็จและความสุขที่ค้นพบสิ่งที่หาย นี่แหละเป็นการรับประกันจากเบื้องบนว่า แม้แกะในฝูงของพระเจ้าที่หลงหายไปก็ไม่ได้ถูกมองข้าม ไม่มีตัวใดถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทุกคนที่ยอมจำนนที่จะรับการไถ่ พระคริสต์จะทรงช่วยเขาจากหุบเหวแห่งความชั่วและจากขวากหนามแห่งบาป {COL 188.2}COLTh 155.1

    จิตวิญญาณที่สิ้นหวังทั้งหลาย จงมีกำลังใจ แม้ว่าท่านทำบาปชั่วมากเท่าใดก็ตาม อย่าคิดว่าพระเจ้าอาจจะอภัยความผิดของท่านและอนุญาตให้ท่านเข้าไปอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์ พระเจ้าทรงเป็นผู้เริ่มก่อน ในขณะที่ท่านยังทรยศต่อสู้พระองค์อยู่ พระองค์ทรงออกตามหาท่าน ด้วยจิตใจที่อ่อนโยนของผู้เลี้ยงแกะ พระองค์ทรงละแกะเก้าสิบเก้าตัวและเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาตัวที่หลงหาย จิตวิญญาณที่บอบช้ำและบาดเจ็บและจวนจะพินาศนั้น พระองค์ทรงกอดด้วยแขนแห่งความรักและแบกกลับมาด้วยความยินดีจนถึงคอกด้วยความปลอดภัย {COL 188.3}COLTh 155.2

    ชาวยิวสอนกันว่าก่อนที่พระเจ้าจะทรงยื่นความรักให้แก่คนบาป เขาจะต้องกลับใจเสียก่อน ในทัศนะของพวกเขา การกลับใจใหม่เป็นการกระทำของมนุษย์เพื่อให้สวรรค์พอพระทัย และก็เพราะความคิดเช่นนี้ที่ทำให้พวกฟาริสีร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจและความโกรธเคืองว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาป ” ตามแนวความคิดของคนเหล่านี้ พระองค์จะต้องไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าใกล้พระองค์ นอกจากผู้ที่กลับใจใหม่แล้ว แต่ในอุปมาเรื่องแกะหลงหายนั้น พระคริสต์ทรงสอนว่าความรอดไม่ได้มาจากการที่เราแสวงหาพระเจ้า แต่โดยการที่พระเจ้าทรงค้นหาเรา “ ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงผิดไปหมด พวกเขาเลวทรามเหมือนกันสิ้น ” โรม 3:11, 12 เราไม่ได้กลับใจเพื่อจะให้พระเจ้ารักเรา แต่พระองค์ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราเพื่อเราจะกลับใจได้ {COL 189.1}COLTh 155.3

    ในที่สุดเมื่อแกะที่หลงทางถูกรับกลับบ้าน ความรู้สึกยินดีปรีดาของผู้เลี้ยงแกะก็จะแสดงออกมาด้วยเสียงเพลงไพเราะแห่งความชื่นชม เขาเรียกมิตรสหายและเพื่อนบ้านมาและพูดกับพวกเขาว่า “ มาร่วมยินดีกับข้า เพราะข้าพบแกะของข้าที่หายไปนั้นแล้ว ” ลูกา 15: 6 เช่นเดียวกัน เมื่อพระผู้เลี้ยงแกะพบคนพเนจร สวรรค์และโลกร่วมกันขอบพระคุณและชื่นชมยินดี {COL 189.2}COLTh 156.1

    จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ” ลูกา 15: 7 พระคริสต์ตรัสว่า ฟาริสีทั้งหลาย ท่านถือว่าท่านเป็นที่ชอบพระทัยของสวรรค์ ท่านคิดว่าตัวท่านมั่นคงอยู่ในความชอบธรรมของตัวเอง ขอให้รู้ไว้เถิดว่าหากท่านไม่ต้องการกลับใจแล้ว ภารกิจของเรานั้นก็ไม่ใช่มีไว้เพื่อท่าน จิตวิญญาณที่ขัดสนเหล่านี้ตระหนักถึงความขัดสนและบาปผิดของตน พวกเขานี่แหละที่เราต้องการมาช่วย ทูตสวรรค์สนใจผู้หลงหายเหล่านี้ที่ท่านดูหมิ่น ท่านบ่นและเยาะเย้ยเมื่อจิตวิญญาณดวงหนึ่งมาติดสนิทกับเรา แต่จงรู้ไว้เถิดว่า ทูตสวรรค์ต่างชื่นชมยินดีและเสียงเพลงแห่งชัยชนะก็จะดังไปทั่วพระราชวังเบื้องบน {COL 189.3}COLTh 156.2

    พวกรับบีมีคำพูดติดปากว่า ในสวรรค์มีความชื่นชมยินดีเมื่อคนหนึ่งที่ทำบาปต่อพระเจ้าถูกทำลาย แต่พระเยซูทรงสอนว่า การทำลายนั้นเป็นสิ่งแปลกประหลาดสำหรับพระเจ้า สิ่งที่ชาวสวรรค์ชื่นชมนั้น คือการนำพระฉายาของพระเจ้ากลับคืนให้แก่จิตวิญญาณที่พระเจ้าทรงสร้าง {COL 190.1}COLTh 156.3

    เมื่อใครก็ตามที่หลงหายไปไกลเพราะอยู่ในบาป พยายามแสวงหาทางกลับมาหาพระเจ้า เขาจะพบกับการติเตียนและไม่ไว้วางใจ จะมีคนสงสัยการกลับใจของเขาว่าจริงใจหรือไม่ หรือจะกระซิบกันว่า “ เขาเป็นคนไม่แน่วแน่ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะยึดมั่นไปตลอด” คนเหล่านี้ไม่ได้ทำงานของพระเจ้า แต่ทำงานของซาตานผู้กล่าวโทษพี่น้องด้วยการติเตียน จอมชั่วร้ายหวังที่จะทำลายกำลังใจของจิตวิญญาณดวงนั้นและผลักไสให้เขาออกห่างไกลจากความหวังและพระเจ้าให้มากยิ่งขึ้น ขอให้คนบาปที่กลับใจใคร่ครวญถึงความชื่นชมยินดีในสวรรค์ที่มีคนหลงหายคนหนึ่งกลับมา ให้เขาพำนักในความรักของพระเจ้าและอย่าท้อแท้เพราะการดูหมิ่นและความสงสัยของพวกฟาริสี {COL 190.2}COLTh 156.4

    รับบีเข้าใจเป็นอย่างดีว่าอุปมาของพระคริสต์นั้นเล็งถึงคนเก็บภาษีและคนบาป แต่ว่าอุปมานี้มีความหมายที่กว้างไกลกว่านี้ พระคริสต์ทรงเปรียบลูกแกะที่หลงหายนั้นว่าไม่เพียงหมายถึงคนบาปคนหนึ่งที่หายไป แต่หมายถึงโลกใบหนึ่งที่ละทิ้งพระเจ้าและถูกบาปทำลาย โลกนี้เป็นเพียงอะตอมหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางสารพัดสิ่งอันมีอยู่อย่างมหาศาลที่พระองค์ทรงครอบครอง ถึงกระนั้นก็ตามโลกใบน้อยๆ ที่หลงหายนี้ ก็เปรียบเสมือนลูกแกะตัวหนึ่งที่หลงหายที่มีค่าในสายพระเนตรมากกว่าแกะเก้าสิบเก้าตัวที่ไม่ได้หลงไปจากฝูง พระคริสต์องค์ผู้บัญชาการแห่งความรัก ผู้ควบคุมพระราชวังแห่งสวรรค์ทรงก้าวลงจากฐานะอันสูงส่งของพระองค์ ทรงวางสง่าราศีที่ทรงมีร่วมกับพระบิดาลงเพื่อมาช่วยโลกใบเดียวที่หลงหายนี้ เพราะเหตุนี้พระองค์ทรงละโลกเบื้องบนที่ปราศจากบาป เหมือนกับทรงทิ้งแกะเก้าสิบเก้าตัวที่รักพระองค์ และเสด็จมายังโลกนี้ “ ถูกแทงเพราะความทรยศของเรา ท่านบอบช้ำเพราะความบาปผิดของเรา” อิสยาห์ 53:5 พระเจ้าประทานพระองค์เองในพระบุตรเพื่อพระองค์จะทรงมีความสุขในการรับลูกแกะที่หลงหายกลับคืนมา {COL 190.3}COLTh 157.1

    ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า” 1 ยอห์น 3:1 และพระคริสต์ตรัสว่า “พระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มาในโลกอย่างไร ข้าพระองค์ก็ใช้พวกเขาไปในโลกอย่างนั้น” ยอห์น 17:18 เพื่อเห็นแก่ “ความยากลำบากอย่างพระคริสต์ที่ทรงทนเพราะเห็นแก่พระกายของพระองค์คือคริสตจักร” โคโลสี 1:24 จิตวิญญาณทุกดวงที่พระคริสต์ทรงช่วยกู้มานั้นได้รับการทรงเรียกในนามของพระคริสต์เพื่อทำงานของการหาผู้หลงหาย ชนชาติอิสราเอลละเลยงานนี้ ทุกวันนี้ผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้ติดตามพระคริสต์ก็ละเลยงานนี้ด้วยไม่ใช่หรือ {COL 191.1}COLTh 157.2

    ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ท่านลงมือค้นหาและนำผู้ที่หลงหายกลับมายังคอกได้กี่คน เมื่อท่านหันหลังให้กับผู้ที่ดูเหมือนว่าไม่มีหวังและไม่น่าสนใจ ท่านรู้สึกตัวไหมว่าท่านกำลังละเลยจิตวิญญาณที่พระคริสต์ทรงแสวงหาอยู่ ในเวลาที่ท่านหันหลังให้กับพวกเขา พวกเขาอาจจะอยู่ในสภาพที่ต้องการความเห็นใจจากท่านมากที่สุด ในที่ประชุมนมัสการทุกแห่งยังมีจิตวิญญาณที่รอคอยการพักผ่อนและสันติสุข พวกเขาอาจดูเหมือนกำลังดำเนินชีวิตอย่างไม่มีความกังวลใจ แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความรู้สึกต่อการชักนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย มีหลายคนในพวกเขากลับใจมาหาพระคริสต์ได้ {COL 191.2}COLTh 158.1

    หากลูกแกะที่หลงหายไม่ได้ถูกนำกลับมายังฝูง มันจะหลงหายจนพินาศไป และจิตวิญญาณจำนวนมากตกลงไปสู่ความหายนะเพราะขาดมือที่ยื่นออกไปเพื่อการช่วยให้รอด ผู้ที่หลงผิดเหล่านี้ดูเหมือนเป็นคนใจแข็งและไม่มีความยั้งคิด แต่ถ้าหากคนเหล่านี้ได้รับโอกาสเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นได้รับ พวกเขาอาจจะแสดงคุณงามความดีและความสามารถในการทำสิ่งที่มีประโยชน์ออกมาได้มากยิ่งขึ้น ทูตสวรรค์สงสารผู้หลงหายเหล่านี้ ทูตสวรรค์เหล่านั้นพากันร้องไห้ด้วยความสงสารขณะที่สายตาของมนุษย์แล้งน้ำใจและหัวใจปิดตายให้กับความสงสาร {COL 191.3}COLTh 158.2

    โอ จิตใจที่ขาดความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริงที่ให้กับผู้ที่ถูกทดลองและกระทำผิด โอ ให้เรามีน้ำใจเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นและเห็นแก่ตัวเองให้น้อยลง ยิ่งน้อยลงก็ยิ่งดี {COL 192.1}COLTh 158.3

    ฟาริสีเข้าใจว่าอุปมาของพระคริสต์เป็นคำติเตียนพวกเขา แทนที่พระองค์จะยอมรับคำติเตียนของพวกเขาที่มีต่อพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ทรงประณามพวกเขาที่ละเลยคนเก็บภาษีและคนบาป พระองค์ไม่ได้กระทำการนี้อย่างเปิดเผยเพราะเกรงว่าพวกเขาจะปิดใจต่อต้านพระองค์ แต่ด้วยการใช้ตัวอย่าง พระองค์ทรงเปิดเผยไว้ต่อหน้าพวกเขาถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนาให้คนเหล่านี้กระทำแต่กลับละเลย หากพวกเขาเป็นผู้เลี้ยงแกะที่แท้จริงแล้ว ผู้นำชาวอิสราเอลเหล่านี้จะทำหน้าที่ของผู้เลี้ยง พวกเขาจะแสดงความกรุณาและความรักของพระคริสต์และควรจะร่วมกับพระองค์ในพันธกิจของพระองค์ การที่พวกเขาปฏิเสธที่จะทำงานนี้ เป็นการพิสูจน์ว่าการเคร่งครัดในทางศาสนาของคนเหล่านี้เป็นสิ่งจอมปลอม มีสักกี่คนปฏิเสธคำตักเตือนของพระคริสต์ ถึงกระนั้นพระดำรัสของพระองค์ก็ยังมีผลต่อจิตใจของอีกหลายคน หลังจากพระคริสต์เสด็จกลับสู่สวรรค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมายังคนเหล่านี้ พวกเขาเข้าร่วมกับสาวกของพระองค์ทำงานที่พระองค์ทรงวางแผนไว้ในอุปมาเรื่องแกะหาย {COL 192.2}COLTh 158.4

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents