Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 1 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    นางอี.จี.ไว้ท์ในสายตาของคนอื่น ๆ ที่ได้รู้จักนาง

    เมื่อเราได้เรียนรู้ถึงการที่นางอี.จี.ไว้ท์เป็นผู้สื่อข่าวของ พระเจ้า มีบางคนอาจจะถามว่านางเป็นบุคคลชนิดไร? นางมีCCh1 33.2

    ปัญหายุ่งยากเช่นเดียวกับเราหรือไม่? นางเป็นคนยากจนหรือ มั่งมี? นางเคยยิ้มหรือไม่?CCh1 34

    นางอี.จี.ไว้ท์เป็นมารดาที่มีความคิดรอบคอบ และเป็น แม่บ้านที่รู้จักมัธยัสถ์ในการใช้จ่าย เป็นเจ้าของบ้านผู้มีใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ และเคยต้อนรับเลี้ยงดูสมาชิกที่บ้านของนางเสมอ นาง เป็นเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือผู้อื่น นางเป็นผู้มีอารมณ์เยือกเย็น มีกิริยามารยาทสุภาพเรียบร้อย และน้ำเสียงที่อ่อนหวานไพเราะ นางทำกิจการเกี่ยวกับการประกาศศาสนาด้วยใจร่าเริงและดวงหน้า ยิ้มแย้มแจ่มใส ทุกๆคนรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ต่อหน้านาง วิธีดี ที่สุดที่จะรู้จักกับนางอี.จี.ไว้ท์ คือการแวะไปเยี่ยมบ้านของหล่อน ในปีค.ศ.๑๘๕๙...ปีแรกที่นางเขียนบันทึกเหตุการณ์ประจำวันCCh1 34.1

    เราได้ทราบว่าครอบครัวไว้ท์อาศัยอยู่ที่บริเวณชายเมือง แบ๊ตเติลครี้ก ครอบครัวนี้มีกระท่อมเล็กๆบนที่ดินแปลงใหญ่ มีสวนดอกไม้ ต้นผลไม้สองสามต้น วัวและไก่ และมีที่สำหรับ ให้เด็กๆทำงานและวิ่งเล่น เวลานั้นนางอี.จี.ไว้ท์มีอายุได้๓๑ปี ศาสนาจารย์ไว้ท์อายุ๓๖ปี ครอบครัวนี้มีบุตรชายสามคน อายุ สี่ เก้า และสิบสองปีCCh1 34.2

    เราพบหญิงรุ่นสาวที่เป็นคริสเตียนที่ดีซึ่งนางอี.จี.ไว้ท์ได้ จ้างมารับใช้ที่บ้าน เพราะนางมีธุระไปจากบ้านบ่อยๆ และเวลา ที่อยู่บ้านก็ต้องทำงานเกี่ยวกับการเขียนหนังสือ แต่นางช่วยทำงาน บ้านด้วย เช่นจัดปรุงอาหาร ปัดกวาดบ้าน ซักเสื้อผ้าและเย็บผ้า บางวันนางไปที่โรงพิมพ์ซึ่งนางมีที่เงียบๆสำหรับเขียนหนังสือ บางวันเราก็พบนางปลูกต้นไม้ดอกและผักอยู่ในสวน และบางครั้ง นางก็เอาต้นไม้ดอกแลกกับต้นไม้ของพวกเพื่อนบ้าน นางอี.จี. ไว้ท์พยายามจัดแต่งบ้านให้เป็นที่อยู่ที่น่าสบายสำหรับครอบครัว ของนาง เพื่อให้ลูกๆคิดว่าบ้านเป็นที่ๆน่าอยู่ที่สุดCCh1 34.3

    นางอี.จี.ไว้ท์เป็นผู้ที่รู้จักระมัดระวังในการใช้จ่าย นาง และพวกเพื่อนบ้านที่เป็นพวกแอ๊ดเวนตีสด้วยกันมีความยินดีเมื่อ ได้ไปซื้อของด้วยกันกับนางอี.จี.ไว้ท์เพราะนางรู้ราคาของที่จะซื้อ มารดาของนางอี.จี.ไว้ท์เป็นหญิงที่เอาการเอางาน และสอนบุตร สาวของหล่อนให้รู้จักทำอะไรๆได้แทบทุกอย่าง นางอี.จี.ไว้ท์ ทราบว่าการใช้ของดีนั้นทำให้นางไม่ต้องสิ้นเปลืองมากเพราะของ ที่ดีใช้ได้นานและทนทานCCh1 35.1

    วันซะบาโตเป็นวันที่น่าสบายที่สุดสำหรับพวกเด็กๆ ครอบครัวไว้ท์จะไปประชุมนมัสการที่โบสถ์ และถ้านายและนาง อี.จี.ไว้ท์ไม่ต้องพูดอะไรที่ในโบสถ์ เขาก็จะมานั่งกับพวกลูกๆ ตลอดเวลาที่ประชุมนมัสการ เวลารับประทานอาหารในวันซะบา โตเขามีอาหารอย่างอร่อยเป็นพิเศษที่ไม่ได้รับประทานในวันอื่นๆ และถ้าวันไหนอากาศปลอดโปร่ง นางอี.จี.ไว้ท์ก็จะพาพวกลูกๆ ไปเดินเล่นในป่าไม้หรือที่ริมแม่น้ำ เพื่อชมความงามของธรรมชาติ และศึกษาเล่าเรียนถึงสิ่งต่างๆที่พระเจ้าได้ทรงสร้าง ถ้าวันไหน ฝนตกอากาศหนาวนางก็จะให้พวกลูกๆมาอยู่พร้อมกันที่หน้า เตาผิงแล้วอ่านหนังสือให้ฟัง โดยมากนางจะอ่านจากเรื่องที่นาง ได้เขียนในขณะที่นางเดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ เรื่องเหล่า นี้บางเรื่องได้พิมพ์ไว้ในหนังสือเพื่อบิดามารดาจะได้อ่านให้พวก ลูกๆฟังCCh1 35.2

    เวลานี้นางอี.จี.ไว้ท์เริ่มเจ็บออดๆแอดๆ นางมักจะเป็น ลมบ่อยๆในเวลากลางวัน แต่นางยังคงทำงานบ้านเหมือนอย่างที่ นางทำงานของพระเจ้า ต่อมาอีกสองสามปีในค.ศ.๑๘๖๓ นาง ได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับการอนามัยและการรักษาคนเจ็บป่วย ในนิมิต นั้นพระเจ้าโปรดสำแดงให้นางเห็นเสื้อผ้าที่เหมาะสมจะให้คนไข้ นุ่งห่ม และอาหารที่จะให้คนไข้รับประทาน และความจำเป็นใน การออกกำลังกายและการพักผ่อน และความสำคัญในการที่จะไว้ วางใจในพระเจ้าเพื่อให้มีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพสมบูรณ์CCh1 36.1

    นางอี.จี.ไว้ท์มีความเห็นส่วนตัวว่าอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เป็นสิ่งที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและสุขภาพสมบูรณ์ แต่ภาย หลังที่พระเจ้าโปรดให้นางเห็นนิมิตครั้งนี้แล้วนางจึงทราบว่าอาหาร จำพวกเนื้อเป็นสิ่งที่มีอันตราย นางจึงสั่งสาวใช้ที่ประกอบอาหาร ให้จัดปรุงอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสำหรับครอบครัวของนาง มีอาหารอย่างง่ายๆทำด้วยข้าว ผัก ลูกนัต นม ครีมและไข่ และ มีผลไม้มากมายCCh1 36.2

    เมื่อครอบครัวของนางมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายหลายอย่างแต่ไม่มีเนื้อ นางอี.จี.ไว้ท์อยากจะรับประทาน เนื้อ แต่ไม่อยากรับประทานอาหารอย่างอื่นๆ นางจึงตัดสินใจว่าจะลุกไปเสียจากโต๊ะและกลับมาใหม่ต่อเมื่อนางนึกอยากจ รับ ประทานอาหารอย่างง่ายๆเมื่อถึงเวลารับประทานอาหารครั้งต่อไป นางก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่นางไม่อยากรับประทานอาหาร ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วครอบครัวของนางได้มารับประทานอาหาร อีก อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะเป็นอาหารง่ายๆตามที่พระเจ้าโปรดให้ นางเห็นในนิมิตว่าเป็นอาหารที่ดีซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและ สุขภาพสมบูรณ์ แต่นางอยากรับประทานเนื้อซึ่งนางเคยรับประ ทานอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามนางทราบว่าเนื้อไม่ใช่อาหารดี นาง บอกเราว่านางได้เอามือวางลงบนหน้าท้องแล้วพูดดังนี้ว่า “เจ้าจง รอจนกว่าเจ้าจะกินขนมปังได้”CCh1 37.1

    ไม่นานนักนางอี.จี.ไว้ท์ก็สามารถจะรับประทานอาหาร อย่างง่ายๆได้ และเมื่อได้เปลี่ยนอาหารจากเนื้อสัตว์มารับประทาน อาหารผักสุขภาพของนางก็สมบูรณ์ขึ้น และตลอดชีวิตอันยืนยาว ของนางๆมีสุขภาพสมบูรณ์ดี ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่านางอี.จี.ไว้ท์ ก็มีปัญหายุ่งยากเช่นเดียวกับเรา นางต้องเอาชนะการที่นางอยาก บริโภคอาหารจำพวกเนื้อ เช่นเดียวกับพวกเรา การเปลี่ยนแปลง ในด้านอนามัยทำให้ครอบครัวไว้ท์มีความสุขมากยิ่งขึ้น และครอบ ครัวของคณะแอ๊ดเวนตีสอีกหลายพันครอบครัวทั่วโลกก็มีสุขภาพดี เช่นเดียวกัน เมื่อได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนางอี.จี.ไว้ท์เกี่ยว กับเรื่องอาหารCCh1 37.2

    ภายหลังที่นางอี.จี.ไว้ท์ได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับการปรับปรุง ทางด้านอนามัยและการรักษาพยาบาลคนป่วยด้วยวิธีง่ายๆ ใน ครอบครัวของนางอี.จี.ไว้ท์ พวกเพื่อนบ้านได้เชิญคนทั้งสองไป ช่วยรักษาพยาบาลคนป่วยที่บ้านของเขาบ่อยๆ และพระเจ้าทรง อวยพระให้นายและนางอี.จี.ไว้ท์ บางครั้งพวกเพื่อนบ้านได้นำคน ป่วยมาที่บ้านของนางไว้ท์ ทั้งสองคนได้ช่วยกันรักษาพยาบาลผู้ ป่วยด้วยความเอาใจใส่ จนผู้ป่วยหายเป็นปกติและกลับไปบ้านได้CCh1 38.1

    นางอี.จี.ไว้ท์ชอบออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนอารมณ์ตาม บริเวณภูเขา ทะเลสาบหรือที่แม่น้ำ เมื่อนางมีอายุย่างเข้าสู่วัย กลางคนนางอยู่ใกล้สำนักพิมพ์แปซิฟิกเพรส ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ ของคณะทางภาคตะวันตกของอเมริกา คนงานได้ตกลงกันเลือกวัน หนึ่งสำหรับออกไปเที่ยวพักผ่อนนอกบ้าน นางอี.จี.ไว้ท์และ ครอบครัวของนางได้รับเชิญให้ไปเที่ยวพักผ่อนนอกบ้านกับครอบ ครัวของผู้ร่วมงานที่สำนักพิมพ์ นางยินดีรับคำเชิญ สามีของนาง มีธุระไปทางภาคตะวันออกเกี่ยวกับกิจการในคณะ นางได้เขียนเล่า เรื่องการไปเที่ยวพักผ่อนของนางให้สามีฟัง และเราได้ทราบเรื่อง นี้จากจดหมายที่นางเขียนถึงสามีCCh1 38.2

    ภายหลังที่ได้รับประทานอาหารที่ชายหาดแล้ว คณะท่อง เที่ยวได้ลงเรือไปเที่ยวในอ่าวแซนแฟรนซิสโก บ่ายวันนั้นอากาศ ปลอดโปร่งน่าสบาย และกัปตันเรือเป็นสมาชิกของโบสถ์คณะ แอ๊ดเวนตีส แล้วเขาได้ตกลงกันว่าจะแล่นเรือออกไปถึงมหาสมุทร นางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนบรรยายถึงประสพการณ์ในครั้งนี้ไว้ว่าCCh1 39.1

    “คลื่นซัดแรง และเรือของเราถูกคลื่นซัดโคลงเคลงไปมา ข้าพเจ้ารู้สึกใจคอเบิกบานอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรกับใครเลย ภาพท้องทะเลที่เราเห็นในวันนั้นสวยงามมาก คลื่นซัดกระเซ็นถูก เราเป็นฟองฝอย ลมแรงพัดอยู่นอกประตูทองคำ (อ่าวแซนแฟรน ซิสโก) และข้าพเจ้าไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามและรู้สึกสนุกสนาน เหมือนในครั้งนี้”CCh1 39.2

    แล้วนางได้เห็นดวงตาของกัปตันเรือที่คอยเฝ้าดูทุกสิ่งทุก อย่างในท้องทะเลและพวกลูกเรือที่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของ กัปตัน แล้วนางได้คิดว่าCCh1 39.3

    “พระเจ้าทรงบังคับคลื่นลมไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงบังคับน้ำในทะเลลึก เราเป็นเพียงจุดเล็กๆนิดเดียว บนพื้นน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลของมหาสมุทรแปซิฟิก แม้กระนั้น พระองค์ก็ได้ทรงใช้เหล่าทูตสวรรค์มาคอยเฝ้าระวังเรือใบลำน้อยนี้ ซึ่งกำลังแล่นฝ่ากระแสร์คลื่น กิจการอันน่ามหัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งเกินที่เราจะเข้าใจได้ พระองค์ทรงชำเลืองพระเนตร ดูเพียงครั้งเดียวก็ทรงเห็นท้องฟ้าที่อยู่เบื้องสูงและกระแสร์คลื่นใน ห้วงสมุทร”CCh1 40.1

    นางอี.จี.ไว้ท์ได้ฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีนิสัยร่าเริง ครั้ง หนึ่งนางได้ถามว่า “ท่านเคยเห็นฉันเศร้าโศกท้อถอยและบ่นว่า ติเตียนอะไรบ้างไหม? นมีความเชื่อซึ่งช่วยมิให้ฉันมีความรู้สึก เช่นนี้ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุดมคติของคริสเตียนและการปรน นิบัติรับใช้พระเจ้าได้ทำให้หลายคนมีความรู้สึกเศร้าโศกและท้อ ถอย ผู้ที่เต็มใจปรนนิบัติรับใช้พระเยซูเป็นผู้ที่ร่าเริงแจ่มใส, คน ทั้งหลายที่ติดตามพระเยซูอย่างใกล้ชิดไม่มีความรู้สึกเศร้าหมอง”CCh1 40.2

    แล้วอีกครั้งหนึ่งนางได้เขียนว่า “บางคนคิดว่าความแจ่มใส ร่าเริงเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับอุปนิสัยของคริสเตียน เพราะพวกคริส — เตียนควรจะต้องมีท่าทางสงบสำรวมและเคร่งขรึม แต่เรื่องนี้เป็น ความเข้าใจผิด สวรรค์เป็นสถานที่ๆเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี” และนางอี.จี.ไว้ท์ทราบว่าถ้าท่านยิ้มกับผู้อื่น เขาก็จะยิ้มตอบท่าน ถ้าท่านพูดกับผู้อื่นด้วยถ้อยคำที่อ่อนหวานไพเราะ เขาก็จะพูดตอบ ท่านด้วยถ้อยคำที่อ่อนหวานไพเราะเช่นเดียวกันCCh1 40.3

    อย่างไรก็ตามมีบางเวลาที่นางอี.จี.ไว้ท์ต้องทนทุกข์ทรมาน อย่างมากมาย ครั้งหนึ่งภายหลังที่นางได้ไปที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อช่วยทำกิจการที่นั่นไม่นานนัก นางได้ล้มป่วยหนักอยู่เกือบปี และต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย นางต้องนอนแซ่วอยู่กับเตียง เกือบตลอดเวลาและเวลากลางคืนก็นอนหลับเพียงสองสามชั่วโมง นางได้เขียนเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนี้ให้เพื่อนคนหนึ่งฟังในจดหมาย ฉบับหนึ่งว่าCCh1 41.1

    “เมื่อฉันรู้สึกตัวว่าฉันล้มป่วยและไม่สามารถจะทำอะไรได้ ฉันรู้สึกเสียใจมากที่ได้ลงเรือข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่ประเทศนี้ เหตุ ไรฉันจึงไม่อยู่ในอเมริกา? เหตุไรฉันจึงต้องเสียเงินทองมากมาย เพื่อจะมาที่ประเทศนี้แล้วก็ต้องป่วยเจ็บ? ฉันซบหน้าลงบนผ้าห่ม นอนแล้วร้องไห้ แต่ฉันไม่ได้ร้องไห้เศร้าโศกอยู่นานนัก ฉันพูด กับตัวเองว่า “เอเล็น.จี.ไว้ท์เหตุไรท่านจึงแสดงความอ่อนแอ เช่นนี้? หตุไรท่านจึงร้องไห้เศร้าโศก? ท่านไม่ได้มาที่ประเทศ ออสเตรเลียเพราะรู้สึกว่าท่านมีหน้าที่ๆท่านควรไปหรือ? ท่านไม่ได้มีหน้าที่ๆจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าหรือ?CCh1 41.2

    ฉันตอบว่า “ฉันมีหน้าที่ ๆ จะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า”CCh1 42.1

    “ถ้าเช่นนั้นเหตุไรท่านจึงรู้สึกท้อถอยและรู้สึก ว่าท่านถูก ทอดทิ้ง ซาตานซึ่งเป็นสัตรูของท่านมิได้กระทำให้ท่านมีความรู้สึก เช่นนี้หรือ?” ข้าพเจ้าตอบว่า “ฉันเชื่อว่าซาตานทำให้ฉันมีความ รู้สึกท้อถอย”CCh1 42.2

    ฉันรีบเช็ดน้ำตาให้แห้งโดยเร็วแล้วพูดว่า “ฉันร้องไห้พอ แล้ว ฉันจะไม่แสดงความเศร้าโศกอีกต่อไป จะเป็นหรือตายฉัน ก็ขอมอบจิตวิญญาณของฉันไว้ให้แก่พระองค์ผู้ทรงปลงพระชนม์ แทนฉัน”CCh1 42.3

    “แล้วฉันก็เชื่อว่า พระเจ้าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้สำเร็จได้ โดยเรียบร้อย และตลอดเวลาที่ฉันป่วยอยู่แปดเดือนฉันไม่มีความ เศร้าโศกหรือรู้สึกระแวงสงสัยอีก เวลานี้ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าทรง มีแผนการที่จะให้ฉันมาประกาศพระคำของพระองค์ในประเทศ อ๊อสเตรเลีย เพื่อประโยชน์ของพลไพร่ของพระองค์ในประเทศนี้ เพื่อประโยชน์ของพวกที่อยู่ในอเมริกา และเพื่อประโยชน์ของฉัน เอง ฉันไม่สามารถจะอธิบายได้ว่าเหตุไรฉันจึงมีความรู้สึกเช่นนี้ แต่ฉันมีความเชื่อในพระเจ้า และมีความชื่นชมยินดีแม้ว่าฉันจะ ป่วยหนักและต้องทนทุกข์ทรมาน ฉันสามารถจะไว้วางใจในพระ บิดาบนสวรรค์ ฉันจะไม่ระแวงสงสัยความรักของพระองค์”CCh1 42.4

    เมื่อนางอี.จี.ไว้ท์อาศัยอยู่ที่บ้านของนางในคาลิฟอเนีย ตลอดระยะสิบห้าปีในบั้นปลายแห่งชีวิตของนาง นางมีอายุย่างเข้า สู่วัยชรา แต่นางมีความสนใจในการงานที่นาเล็กๆนั้น และนาง สนใจในความเป็นอยู่ของครอบครัวของพวกที่ช่วยเหลือในกิจการ ของนาง นางใช้เวลาเขียนหนังสือ ตามปกตินางมักจะเขียนภาย หลังเที่ยงคืนเล็กน้อยเพราะนางเข้านอนแต่หัวค่ำ ถ้าวันไหนอากาศ ปลอดโปร่งดีและนางพอมีเวลาว่างนางจะออกไปนั่งรถเที่ยวเล่นใน ชนบท นางหยุดสนทนากับผู้หญิงที่นางพบในสวนหรือที่ระเบียง บ้านที่นางผ่านไป บางครั้งนางอี.จี.ไว้ท์ก็พบเพื่อนบ้านที่ต้องการ เสื้อผ้าและอาหาร แล้วนางได้กลับไปเอาเสื้อผ้าและอาหารที่บ้าน และนำมาให้คนเหล่านั้น ต่อมาอีกหลายปีภายหลังที่นางอี.จี.ไว้ท์ ถึงแก่กรรมแล้ว พวกเพื่อนบ้านในหุบเขาที่นางอาศัยอยู่ยังระลึก ถึงนางได้ว่านางเป็นหญิงร่างเล็กแบบบาง ศีรษะหงอกขาวซึ่ง พูดถึงพระเยซูด้วยความรักนับถืออยู่เสมอCCh1 43.1

    มื่อนางอี.จี.ไว้ท์ตายนางไม่มีทรัพย์สมบัติเหลือไว้ให้บุตร หลานมากนัก เพราะตลอดชีวิตของนางๆไม่มีอะไรมากไปกว่า สิ่งที่จำเป็นสำหรับการยังชีพ นางไม่ได้ขอให้ผู้อื่นทำตามแบบ อย่างของนาง เพราะนางเป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งในคริสต์จักร เซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส นางมีความไว้วางใจในพระเยซูผู้ทรงฟื้น คืนชีพ และนางได้พยายามปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายจาก พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์ นางอี.จี.ไว้ท์ได้สิ้นชีวิตลงด้วยความ ไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ และนางได้ปฏิบัติหน้าที่ของนางโดย เรียบร้อยCCh1 43.2