พระคัมภีร์เป็นอาจารย์ยิ่งใหญ่ที่สุด

มีวิชาใดบ้างที่พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้นำเสนอเพื่อให้สมองได้วิเคราะห์ไตร่ตรอง เราจะหาสาระอื่นที่สูงค่ากว่านี้ได้จากที่ใด มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจกว่าเรื่องนี้อีกไหม ในแง่คิดใดที่งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆ ของมนุษย์จะเทียบความบริสุทธิ์สูงส่งและความลึกลับกับศาสตร์ของพระคัมภีร์ได้บ้าง มีสิ่งอื่นใดอีกไหมที่จะเค้นพลังของความนึกคิดและปัญญาของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งและแรงกล้าเช่นนี้ {MYP 257.1}MYPTh 206.4

หากเรายอมให้พระคัมภีร์พูดกับเรา พระคัมภีร์จะสอนเราถึงเรื่องที่ไม่มีสิ่งอื่นใดสอนเราได้ แต่อนิจจา เรายุ่งอยู่กับทุกเรื่องยกเว้นพระวจนะของพระเจ้า วรรณคดีไร้ค่า นิยายปั้นแต่ง เราล้วนอ่านกันอย่างละโมบในขณะที่พระคัมภีร์ซึ่งเต็มไปด้วยขุมทรัพย์ของสัจธรรมอันศักดิ์สิทธิ์กลับถูกมองข้ามวางทิ้งไว้บนโต๊ะ หากนำพระวจนะศักดิ์สิทธิ์มาเป็นกฎแห่งชีวิตแล้ว พระวจนะจะขัดเกลา ยกชูและชำระชีวิตให้บริสุทธิ์ พระวจนะเป็นพระสุรเสียงของพระเจ้าที่มาถึงมนุษย์ แล้วเราจะไม่สนใจหรือ {MYP 257.2}MYPTh 207.1

“การอธิบายพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้น้อย” สดุดี 119:130 เหล่าทูตสวรรค์ยืนเคียงข้างผู้ที่กำลังศึกษาพระคัมภีร์อยู่ เพื่อดลใจและให้ความกระจ่างแก่สติปัญญา พระบัญชาของพระคริสต์มาถึงเราด้วยฤทธานุภาพเช่นเดียวกับที่ประทานแก่เหล่าสาวกในยุคแรกเมื่อหนึ่งพันแปดร้อยปีที่แล้ว “พวกท่านค้นดูในพระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าในนั้นมีชีวิตนิรันดร์ และพระคัมภีร์นั้นเองเป็นพยานให้กับเรา” ยอห์น 5:39--Review and Herald, January 11, 1881. {MYP 257.3}MYPTh 207.2

*****

ความเกียจคร้านและความไม่เอาใจใส่ ต่อการขวนขวายหาความรู้นั้นเป็นบาป {MYP 185.2}