บทที่ 157 - แบบอย่างของอิสอัค

ไม่มีผู้ใดที่ยำเกรงพระเจ้าจะรอดพ้นอันตรายจากการนำตนเองไปคบหาสมาคมกับผู้ที่ไม่ยำเกรงพระเจ้า “สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรือ นอกจากทั้งสองจะได้ตกลงกันไว้ก่อน” อาโมส 3:3 ความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของสัมพันธภาพการแต่งงานขึ้นอยู่กับความสามัคคีของทั้งสองฝ่าย แต่ระหว่างผู้เชื่อกับผู้ไม่เชื่อจะมีความแตกต่างของเรื่องรสนิยม ความมักชอบและจุดประสงค์อย่างรุนแรง แต่ละฝ่ายต่างรับใช้คนละเจ้านาย ระหว่างคนทั้งสองนี้ไม่อาจมีความเห็นชอบที่ตรงกันได้ ไม่ว่าฝ่ายใดจะมีหลักการที่บริสุทธิ์และถูกต้องเพียงไร อิทธิพลของเพื่อนที่ไม่เชื่อจะมีแรงโน้มน้าวให้เดินออกห่างจากพระเจ้า {MYP 464.1}MYPTh 386.1

ผู้ใดที่เข้าสู่ความสัมพันธ์ของการแต่งงานในขณะที่ยังไม่รับเชื่อจะต้องมีพันธะผูกพันที่หนักแน่นยิ่งขึ้นที่ต้องซื่อสัตย์ต่อคู่สมรสของตนเมื่อมาเชื่อพระเจ้าแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะมีความเชื่อทางศาสนาแตกต่างกันอย่างมากเพียงไร แต่ถึงกระนั้นจะต้องถือว่าพระประสงค์ของพระเจ้าต้องอยู่เหนือความสัมพันธ์อื่นๆ ของฝ่ายโลกถึงแม้ว่าการทดลองและการกดขี่ข่มจะเป็นผลลัพธ์ที่ตามมาก็ตาม ความจงรักภักดีด้วยวิญญาณแห่งความรักและการถ่อมใจอาจมีอิทธิพลเอาชนะผู้ไม่เชื่อได้ แต่พระคัมภีร์ห้ามการสมรสระหว่างคริสเตียนกับคนอธรรมที่ไม่เชื่อพระเจ้า คำแนะนำของพระเจ้าคือ “อย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ” 2 โครินธ์ 6:14 {MYP 464.2}MYPTh 386.2

พระเจ้าทรงให้เกียรติแก่อิสอัคอย่างสูงด้วยพระประสงค์ให้เขาเป็นผู้สืบทอดพระสัญญาเพื่อเป็นพระพรแก่คนทั้งโลก กระนั้น ขณะที่เขาอายุสี่สิบปี เขายอมจำนนทำตามการตัดสินใจของผู้เป็นบิดาที่แต่งตั้งบ่าวมากด้วยประสบการณ์และยำเกรงพระเจ้าไปเลือกภรรยาคนหนึ่งมาให้ และตามที่บันทึกในพระคัมภีร์ การสมรสครั้งนั้นเราได้เห็นภาพของบ้านที่อบอุ่นและงดงาม “อิสอัคก็พาเธอเข้ามาในเต็นท์ของซาราห์มารดาของท่านและรับเรเบคาห์ไว้ เธอได้เป็นภรรยาของท่าน และท่านก็รักเธอ อิสอัคจึงได้รับการปลอบโยนหลังจากมารดาของท่านสิ้นชีวิต” ปฐมกาล 24:67 {MYP 464.3}MYPTh 386.3

การสมรสของอิสอัคช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิธีที่เยาวชนในยุคของเรานิยม แม้กระทั่งกับผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นคริสเตียนก็ตาม คนหนุ่มสาวมากมายในยุคนี้รู้สึกว่าการตัดสินใจเรื่องความรักควรถามและปรึกษากับตนเองก็พอ เป็นเรื่องที่พระเจ้าหรือพ่อแม่ไม่ควรเข้ามาควบคุม ก่อนพวกเขาจะโตเป็นหนุ่มสาว พวกเขาก็คิดว่าตนเองมีศักยภาพตัดสินใจทางเลือกของตนโดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากพ่อแม่ โดยทั่วไปหลังการแต่งงานเพียงไม่กี่ปีก็เพียงพอที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความผิดพลาด แต่บ่อยครั้งก็สายเกินที่จะป้องกันผลอันร้ายกาจของมัน การขาดสติปัญญาและการควบคุมตนอย่างเดียวกันที่สั่งการในการตัดสินใจอย่างเร่งรีบจะปล่อยให้ความชั่วร้ายแรงยิ่งขึ้นจนทำให้ความสัมพันธ์ของการแต่งงานกลายเป็นแอกที่ขมขื่น ด้วยการกระทำเช่นนี้คนจำนวนมากทำลายความสุขของตนเองในชีวิตนี้และความหวังของชีวิตที่จะมาถึง {MYP 465.1}MYPTh 387.1

หากมีเรื่องใดที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบและควรขอคำแนะนำจากผู้ที่อาวุโสและมีประสบการณ์มากกว่า เรื่องนั้นก็คือเรื่องของการแต่งงาน หากมีเวลาใดที่ต้องการพระคัมภีร์เป็นที่ปรึกษา เวลาใดที่ต้องอธิษฐานขอการทรงนำของเบื้องบน เวลานั้นก็คือก่อนไปผูกพันกับใครให้มาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน {MYP 465.2}MYPTh 387.2

พ่อแม่ไม่ควรคลาดสายตาจากภาระรับผิดชอบของตนต่อความผาสุกในอนาคตของลูกๆ การที่อิสอัคยอมทำตามการตัดสินใจของบิดานั้นเป็นผลของการอบรมสั่งสอนที่ปลูกฝังเขาให้ดำเนินชีวิตของการเชื่อฟัง ในขณะที่อับราฮัมต้องการลูกๆ ของเขาให้เคารพสิทธิอำนาจของพ่อแม่ ชีวิตประจำวันของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสิทธิอำนาจของเขาไม่ใช่แบบเห็นแก่ตัวหรือการควบคุมอย่างไร้เหตุผล แต่ยึดติดกับความรัก และต้องการเห็นสวัสดิภาพและความผาสุกของลูกเป็นหลัก {MYP 465.3}MYPTh 387.3

พ่อแม่ควรตระหนักว่าเป็นหน้าที่ที่ตกทอดมาถึงตนเองในการชี้นำทางในเรื่องความรักของเยาวชน เพื่อที่พวกเขาจะถูกจัดวางให้ไปอยู่กับคู่ชีวิตที่เหมาะสม พ่อแม่ควรตระหนักว่านี่คือหน้าที่ โดยการอบรมสั่งสอนและแบบอย่างของพวกเขาพร้อมด้วยความช่วยเหลือจากพระคุณของพระเจ้าเพื่อหล่อหลอมอุปนิสัยของลูกๆ ตั้งแต่ยังอ่อนวัยว่าพวกเขาต้องเป็นคนสะอาดบริสุทธิ์และมีคุณธรรม และพวกเขาจะถูกดึงดูดด้วยคุณงามความดีและความสัตย์จริง สิ่งที่เหมือนกันจะดึงดูดเข้าหากัน สิ่งที่เหมือนกันจะชื่นชอบกัน จงให้ความบริสุทธิ์และคุณความดีถูกฝังรากอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเขาตั้งแต่เยาว์วัย และเยาวชนจะแสวงหาสังคมของผู้ที่มีอุปนิสัยเหล่านี้ {MYP 466.1}MYPTh 387.4

รักแท้เป็นหลักการสูงส่งและบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความรักที่ถูกกระตุ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งจะดับไปอย่างกะทันหันเมื่อถูกทดลองอย่างรุนแรง ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนในครอบครัวของพ่อแม่คือการเตรียมความพร้อมแก่เยาวชนสำหรับครอบครัวของตนเอง ณ ที่นี่ให้พวกเขาฝึกปฏิเสธตนเองและแสดงออกถึงความเมตตาปรานี ความสุภาพอ่อนโยนและการเห็นอกเห็นใจแบบคริสเตียน เมื่อเป็นเช่นนี้ ความรักจะคุกรุ่นอยู่ในหัวใจ และผู้ที่ก้าวออกจากครอบครัวเช่นนี้เพื่อไปเป็นหัวหน้าของครอบครัวตนเองจะเข้าใจถึงวิธีส่งเสริมความสุขของเธอผู้ซึ่งเขาคัดเลือกมาเป็นคู่ชีวิต การแต่งงานแทนที่จะเป็นการสิ้นสุดของความรักก็จะกลายเป็นเพียงการเริ่มต้น--“Patriarchs and Prophets,” pp. 174-176. {MYP 466.2}MYPTh 388.1

*****

“ สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรือ นอกจากทั้งสองจะได้ตกลงกันไว้ก่อน” อาโมส 3:3

ความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของสัมพันธภาพการแต่งงานขึ้นอยู่กับ ความสามัคคีของทั้งสองฝ่าย {MYP 464.1}MYPTh 388.2

*****