หน้าที่รับผิดชอบของเรา

เรื่องนี้เป็นหน้าที่รับผิดชอบซึ่งตัวเราเองไม่อาจหลีกหนีให้พ้น คำพูดของเรา พฤติกรรมของเรา การแต่งกายของเรา ท่าทางของเราแม้แต่สีหน้าการแสดงออกของเราล้วนแต่ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งสิ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะสร้างรอยประทับว่าดีหรือชั่วซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดจะกำหนดวัดได้ ทุกแรงกระตุ้นที่ส่งออกไปเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ถูกหว่านลงซึ่งจะกลายเป็นผลผลิตในฤดูเก็บเกี่ยว เป็นข้อต่อห่วงหนึ่งของสายโซ่แห่งพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งจะขยายออกไปอีกมากน้อยเพียงไรนั้นเราไม่อาจทราบได้ หากด้วยแบบอย่างที่เราแสดงออกช่วยพัฒนาหลักการที่ดีงาม เราก็ได้มอบพลังแห่งการทำความดีแก่ผู้อื่น และเมื่อถึงโอกาสของพวกเขาก็จะส่งต่อแรงชักจูงเดียวกันไปสู่ผู้อื่นต่อไปและต่อไป ดังนั้น จากแรงชักจูงที่เราทำไปโดยไม่รู้ตัวอาจเป็นพระพรแก่คนนับพัน {MYP 417.3}MYPTh 346.3

*****

พระคัมภีร์สอนเราให้แต่งกายอย่างสุภาพด้วยความเหมาะสม “ส่วนพวกผู้หญิงก็เหมือนกัน ควรแต่งกายให้สุภาพด้วยความเหมาะสม” 1 ทิโมธี 2:9 {MYP 351.1}

ให้โยนกรวดสักหนึ่งก้อนลงไปยังทะเลสาบและจะมีคลื่นกระเพื่อมขึ้นมา และคลื่นแล้วคลื่นเล่า วงกระเพื่อมของน้ำจะแผ่กว้างขยายออกไปจนไปกระทบฝั่ง แรงชักจูงของเราก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน จะกลายเป็นพระพรหรือคำสาปแช่งต่อผู้อื่นอย่างเหนือความเข้าใจและการควบคุมของเรา {MYP 418.1}MYPTh 347.1

อุปนิสัยมีพลังอำนาจ พยานเงียบๆ ของชีวิตที่เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เห็นแก่ตัวและคุณความดีมีอำนาจชักจูงอย่างแทบไม่มีทางต่อต้านได้ ด้วยการสำแดงแบบอย่างพระลักษณะของพระคริสต์ในชีวิตเรา เราร่วมมือกับพระองค์ในการรับใช้แห่งการช่วยจิตวิญญาณให้รอด ด้วยการสำแดงพระลักษณะของพระคริสต์ในชีวิตเราเท่านั้นที่เราเข้าร่วมอยู่ในพันธกิจของพระองค์ {MYP 418.2}MYPTh 347.2

และขอบเขตอำนาจชักจูงนี้แผ่กว้างออกมากขึ้นเท่าไร ผลงานของการประกอบการดีที่ทำก็จะมากขึ้นเท่านั้น เมื่อผู้ที่อ้างว่าตนรับใช้พระเจ้าปฏิบัติตามแบบอย่างของพระคริสต์ ประพฤติตามหลักการพระบัญญัติในชีวิตประจำวันของพวกเขา เมื่อทุกการกระทำเป็นประจักษ์พยานว่าพวกเขารักพระเจ้าอย่างสูงสุดและรักเพื่อนบ้านของตนเหมือนรักตนเอง เมื่อนั้นคริสตจักรจะมีฤทธานุภาพขับเคลื่อนโลก--“Christ’s Object Lessons,” pp. 339, 340. {MYP 417.3}MYPTh 347.3