Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
บหัศจรรย์แห่อการรักษา - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    ความอดกนอดกลั้นต่อส์งกีไม่กูกตอง

    เราจกต้องไม่ปล่อยให้จิตใจของเราฉุนเฉียวเมื่อถูกกระทำผิดทั้งใน สิ่งที่เป็นจริงและสิ่งที่คาดการณ์ผิด แท้จริงตัวตนของเราเองต่างหากเป็น ศัตรูที่เราจะต้องกลวมากที่สุด ไม่มีความชั่วในรูปแบบใดจะส่งผลอันร้าย แรงต่ออุปนิสัยได้มากไปกว่ากิเลสตัณหาของมนุษย์ที่ไม่อยู่ภายใต้การ ควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่มีชัยชนะใดที่เราไต้มาจะมีค่าสูงส่ง เหนือไปกว่าชัยชนะที่เราไต้จากการเอาชนะตัวของเราเอง {MH 485.1}MHTh 551.1

    เราไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกของเราลูกกระทบกระทั้งไต้อย่างง่ายๆ เราต้องมีชีวิตอยู่ไม่ไช่เพื่อคอยปกป้องความรู้สึกหรือชื่อเสียงของตัวเรา แต่อยู่เพื่อช่วยเหลือจิตวิญญาณของผู้อื่นให้ไต้รับความรอด เมื่อเราเริ่มมี ความสนใจในความรอดของจิตวิญญาณของผู้อื่น เราก็จะเลิกใส่ใจกับความ คิดเห็นไม่ลงรอยเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการคบหากับผู้อื่น ไม่ว่า ใครจะคิดหรือปฏิบัติต่อเราเช่นไร สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมากระทบ กระเทือนถึงการร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเรากับพระคริสต์และ มิตรภาพของเรากับพระวิญญาณบริสุทธิ์ “เพราะจะเป็นความดีความชอบ อย่างไร ถ้าพวกท่านสู้ทนเมื่อถูกเฆี่ยนเพราะการทำชั่วนั้น แต่ถ้าพวก ท่านทำดีและต้องทนทุกข์ลำบาก สิ่งนี้ก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า” 1 ฟโตร 2:20 (THSV) {MH 485.2}MHTh 551.2

    อย่าตอบโต้ผู้อื่น เท่าที่ท่านสามารถจะกระทำไต้จงขจัดสาเหตุทั้ง หลายของการเข้าใจผิดต่อกัน จงหลีกเลี่ยงการแสดงออกถึงความมาดร้าย จงกระทำทุกสิ่งตามกำลังความสามารถที่ท่านมีอยู่ในการผูกไมตรีกับผู้อื่น โดยไม่ละทิ้งต่อหลักการที่ลูกต้อง“เหตุฉะนั้นถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึง แท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นไต้ว่าพี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา กลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน”มัทธิ-ว 5:23, 24 {MH 485.3}MHTh 551.3

    เมื่อมีผู้ใดกล่าวถ้อยคำรุนแรงต่อท่าน จงอย่ากล่าวถ้อยคำรุนแรง อย่างเดียวกันตอบกลับไป จงจำไว้ว่า “คำตอบอ่อนหวานช่วยละลายความ โกรธเกรี้ยวให้หายไป” สุภาษิต 15:1 ในความเงียบนั้นมีฤทธิ์อำนาจ อันน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ถ้อยคำเผ็ดร้อนกล่าวตอบโต้ต่อผู้ที่กำลังโกรธอยู่ก็ ยิ่งรังแต่จะยั่วโทสะให้มากขึ้นไปกว่าเดิม แต่โทสะอันเกรี้ยวกราดเมื่อได้ ประจันหน้ากับจิตใจที่นิ่งสงบด้วยความสุภาพอ่อนโยนและมีความอดทน อดกลั้น โทสะนั้นก็จะมลายหายไปได้ {MH 486.1}MHTh 552.1

    เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดใช้ถ้อยคำกล่าวร้ายเพื่อหาเหตุท่าน ขอให้จิตใจของ ท่านได้มีความมั่นคงอยู่ในพระวจนะของพระเจ้า ขอให้ท่านได้เก็บรักษา พระสัญญาของพระเจ้าไว้ในความคิดและจิตใจของท่าน ถ้าท่านได้รับการ ปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมหรือถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ แทนที่ท่านจะกล่าว ตอบเขาอย่างโกรธเคือง ให้ท่านได้ยํ้าถึงพระสัญญาอันประเสริฐของพระเจ้า แก่ตัวของท่านเองว่า {MH 486.2}MHTh 552.2

    “อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” โรม 12:21 {MH 486.3}MHTh 552.3

    “จงมอบทางของท่านไว้กับพระยาห์เวห์ จงวางใจในพระองค์ และ พระองค์จะทรงช่วยท่าน พระองค์จะทรงให้ความขอบธรรมของท่าน ปรากฎอย่างความสว่าง และให้ความยุติธรรมของท่านปรากฎอย่างเที่ยง วัน” สดุดี 37:5, 6 (THSV) {MH 486.4}MHTh 552.4

    “ไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้ที่จะไม่ต้องเปิดเผย หรือการลับที่จะไม่เผยไห้ ประจักษ์” ลูกา 12:2 {MH 486.5}MHTh 552.5

    “พระองค์ทรงโปรดให้ศัตรูได้เหยียบย่ำอยู่บนศีรษะของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องลุยนํ้าและลุยไฟ แต่พระองค์ก็ยังทรงนำข้าพระองค์ มายังที่ๆ มีสิ่งสารพัดอันบริบูรณ์” สดุดี 66:1 2 (New Century Version) {MH 486.6}MHTh 552.6

    แทนที่จะพึ่งพาพระเยซู เรามักจะคอยหวังพึ่งเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้เห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจแก่เรา หลายครั้ง ในพระเมตตาคุณและใน ความสัตย์ซื่อของพระเจ้า พระองค์ทรงโปรดให้คนที่เราไว้วางใจทำให้เรา ผิดหวัง เพื่อที่เราจกได้เรียนรู้ว่าเป็นสิ่งโง่เขลาเพียงไรที่เราวางใจในมนุษย์ และคิดว่ามนุษย์จะเป็นผู้ที่พิทักษ์รักษาเราได้ ขอให้เราได้มีความไว้วางใจ ในพระเจ้าอย่างหมดสิ้นด้วยจิตใจที่ถ่อมลงและไม่เห็นแก่ตัว พระองค์ทรง เข้าพระทัยดีถึงความทุกข์โศกที่มีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจของเรา แต่เราไม่ สามารถจะแสดงความรู้สึกนั้นออกมาได้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างดูมีดมนและ ยากที่จะอธิบาย จงระลึกถึงพระดำรัสของพระคริสต์ที่ตรัสว่า “สิ่งที่เรา กระทำในขณะนี้ท่านยังไม่รู้เรื่อง แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ” ยอห์น 13:7 {MH 486.7}MHTh 553.1

    จงศึกษาถึงประวัติของโยเซฟและของดาเนียล องค์พระผู้เป็นเจ้า มิได้ทรงขัดขวางแผนปองร้ายของมนุษย์ผู้พยายามทำร้ายคนทั้งสอง แต่ พระองค์ทรงกระทำให้อุบายแผนการเหล่านี้กลบเป็นประโยชน์แก่ผู้รับใช้ ของพระองค์ ผู้ซึ่งท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากและอันตรายยังคงยึด มั่นในความเชื่อและความสัตย์ซื่อของตนเอง {MH 487.1}MHTh 553.2

    ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกนี้ เราจะต้องเผชิญกับอิทธิพลที่ขัดขวงเรา จะต้องพบกับการยั่วโทสะเพื่อทดสอบอารมณ์ของเรา และโดยการเผชิญ หน้ากับสิ่งเหล่านี้ด้วยจิตวิญญาณที่ถูกต้องเหมาะสม เราก็จะเจริญขึ้นใน พระคุณของพระคริสต์ หากพระคริสต์สถิตอยู่กับเรา เราจะมีความอดทน มีความเมตตากรุณา มีความอดกลั้นและมิจิตใจที่เบิกบานท่ามกลาง ความหวาดกลัวและระคายเคือง วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า เราก็จะสามารถ เอาชนะตัวของเราเองไต้และเติบโตในความรู้สึกเยี่ยงวีรบุรุษที่สง่างาม นี่ แหละคือ ภาระหน้าที่ๆ พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่เรา แต่เราไม่อาจ บรรลุถึงความสำเร็จได้โดยปราศจากการช่วยเหลือจากพระเยซูเพื่อช่วยให้ เราเป็นผู้มีนํ้าใจอันเด็ดเดี่ยว มีความมุ่งหมายอันแน่วแน่ คอยเฝ้าระวัง ตลอดเวลา และไม่ลดละในการอธิษฐาน ทุกคนต่างก็มิสงครามส่วนตัวที่ ต้องต่อสู้ แม้แต่พระเจ้าก็ยังไม่อาจท่าให้เราเป็นผู้ที่มิอุปนิสัยอันดีงามหรือ ท่าให้ชีวิตของเราเถิดประโยชน์ได้ นอกเสียจากว่าเราจะเป็นผู้ร่วมงานกับ พระองค์ คนทั้งหลายที่ปฏิเสธการต่อสู้นี้ย่อมสูญเสียความเข้มแข็งและ ความชื่นชมยินดีของชัยชนะ {MH 487.2}MHTh 553.3

    เราไม่จำเป็นต้องเก็บสถิติการทดลอง ความทุกข์ยากลำบาก ความ คับแค้นใจและความโศกเศร้าของเราไว้ สิ่งเหล่านี้ถูกบันทึกอยู่ในสมุด ทะเบียนประจำชีพแล้ว และสวรรค์จะเป็นผู้เก็บรักษาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไว้ ในขณะที่เรามัวแต่นับสิ่งที่ไม่น่าชื่นชม หลายสิ่งที่เป็นเรื่องน่ายินดีให้รำลึก ถึงก็จะผ่านพ้นไปจากความทรงจำของเรา อย่างเช่น พระเมตตาคุณของ พระเจ้าที่อยู่โดยรอบเราในทุกเวลานาที และความรักของพระเจ้าที่แม้แต่ ทูตสวรรค์ก็ยังรู้สึกพิศวงว่าพระองค์ถึงกับประทานพระบุตรของพระองค์ให้ มาสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ถ้าท่านมีความรู้สึก-ว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้รับใช้ ของพระคริสต์ ท่านมีภาระและได้รับความยากลำบากมากมายกว่าคน อื่นๆ จงจดจำไว้ว่าสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับความทุกข์เหล่านี้เหมือน อย่างท่าน พวกเขาจะไม่มีวันเข้าใจถึงสันติสุขเช่นที่ท่านได้รับ ในการ ปรนนิบัติรับใช้พระคริสต์นั้น เราจะได้รับการประเล้าประโลมจิตใจและ ความชื่นชมยินดี จงแสดงให้ชาวโลกเห็นว่า การมีชีวิตอยู่ร่วมกับพระองค์ นั้นย่อมจะไม่มีคำว่าล้มเหลว {MH 487.3}MHTh 554.1

    ถ้าท่านรู้สึกไม่เบิกบานใจและไม่มีความชื่นชมยินดี จงอย่าพูดถึง ความรู้สึกของท่าน จงอย่าทอดเงามืดแห่งความทุกข์ลงบนชีวิตของผู้อื่น ศาสนาที่เศร้าหมองและเป็นทุกข์ไม่อาจจะชักน่าจิตวิญญาณให้มาหา พระคริสต์ใต้ มีแต่จะผลักไสคนเหล่านั้นให้เหินห่างจากพระองค์ไปสู่บ่วง แร้วที่ซาตานได้วางไว้สำหรับดักคนทั้งหลายที่พลัดหลงไปจากพระคริสต์ แทนที่จะคิดถึงความท้อแท้ผิดหวังของท่าน ให้ท่านคิดถึงฤทธิ์เดชที่ท่าน สามารถทูลขอพระราชทานในพระนามของพระคริสต์ใต้ จงจินตนาการ ของท่านคิดคำนึงถึงสิ่งที่มองไม่เห็น จงมุ่งความคิดของท่านไปยังสิ่งที่เป็น ประจักษ์พยานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงมีต่อท่าน ความ เชื่ออดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก ต่อต้านการทดลองและแบกรับภาระ แม่ในยามผิดหวัง พระเยซูทรงดำรงพระชนม์ในฐานะทนายของเรา ทุก วาทะที่ทรงแถลงแก้ต่างแทนเราของพระองต์เป็นผลงานของเรา {MH 488.1}MHTh 554.2

    ท่านคิดหรือไม่ว่าพระคริสต์จะประทานเกียรติแก่คนทั้งหลายที่ใช้ ชีวิตทั้งหมดอยู่เพื่อพระองค์ ท่านคิดหรือไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปเยี่ยมคน ทั้งหลายที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากและตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเพื่อ พระองค์อย่างเช่นสาวกยอหน์ผู้ถูกเนรเทศที่พระองค์ทรงโปรดปราณ พระเจ้าจะไม่ทรงยอมให้ผู้รับใช้ผู้สัตย์ซื่อของพระองค์แม้แต่คนเดียวต้อง ลูกทอดทิ้งไว้อย่างเดียวดายให้ต้องต่อสูดิ้นรนกับความยากลำบากจนต้อง พ่ายแพไป พระองค์ทรงพิทักษ์รักษามนุษย์ทุกผู้ทุกนามที่มีชีวิตซ่อนไว้กับ พระคริสต์ในพระเจ้าดุจดังอัญมณีอันมีค่า พระองค์ตรัสถึงคนเหล่านี้ทุกคน ว่า “เราจะกระทำเจ้าให้เป็นด้งแหวนตรา เพราะเราได้เลือกสรรเจ้าแล้ว’’ ฮักกัย 2:23 {MH 488.2}MHTh 555.1

    ดังนั้น จงพูดถึงพระสัญญา จงพูดถึงการทรงอำนวยพระพรอย่าง เต็มพระทัยของพระเยซู พระองค์ทรงไม่ไต้หลงลืมเราแม้แต่เพียงชั่วขณะ เดียว เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากใดๆ จงให้เราวางใจด้วยความ เชื่อมั่นในความรักของพระองค์และเก็บตัวเราเองให้เข้าสนิทอยู่ในพระองค์ ความรูสึกแห่งการร่วมสถิตของพระองค์จะดลบันดาลความยินดีที่สงบและ ลึกซึ้งอยู่ในตัวเรา พระคริสต์ตรัสถึงพระองค์เองว่า “เรามิได้ทำสิ่งใด ตามใจขอบ แต่พระบิดาได้ทรงสอนเราอย่างไร เราจึงกล่าวอย่างนั้น และ พระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็สถิตอยู่กับเรา พระองค์มิได้ทรงทิ้งเราไว้ตาม ลำพัง เพราะว่าเราทำตามขอบพระทัยพระองค์เสมอ” ยอห์น 8:28, 29 {MH 488.3}MHTh 555.2

    พระบิดาสถิตอยู่เคียงข้างพระคริสต์ และไม่มีสิ่งใดจะเถิดขึ้นกับ พระองค์ใต้ นอกจากสิ่งที่ความรักอันเป็นนิตย์ของพระเจ้าจะยินยอมให้ บังเกิดเพื่อเป็นพระพรของชาวโลก สิ่งนี้นั่นเองที่เป็นสิ่งประโลมใจของ พระองค์และเป็นของเราเช่นกัน ผู้ที่เปียมด้วยพระวิญญาณของพระคริสต์ ก็เข้าสนิทอยู่ในพระคริสต์ สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นกับเขามาจากพระผู้ช่วยให้ รอด ผู้สถิตอยู่เคียงข้างเขา ไม่มีสิ่งใดที่จะแตะต้องเขาได้เว้นไว้แต่องค์พระ ผู้เป็นเจ้าจะทรงยินยอม ในความทุกข์ยากและความเศร้าโศกทั้งหลายของ เรา ในการทดลองและการทดสอบทั้งหลายที่เราต้องเผชิญ ในความเสียใจ และความทุกข์ร้อนทั้งหลายของเรา ในการกดขี่ข่มเหงและความคบแค้น ทั้งหลาย กล่าวโดยสรุป สิ่งสารพัดเหล่านี้ต่างดำเนินไปเพื่อประโยชน์อัน ดีของเราเอง ประสบการณ์และสถานการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นภาชณะของ พระเจ้าเพื่อนำผลดีมาสู่ตัวเรา {MH 488.4}MHTh 555.3

    ถ้าเราจักได้เข้าใจถึงความอดทนนานของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา เรา ก็จะไม่ตัดสินหรือกล่าวโทษผู้อื่น เมื่อพระคริสต์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ใน โลกนี้ ผู้ที่รู้จักพระองค์คงจะประหลาดใจมาก หากหลังจากที่คุ้นเคยกับ พระองค์แล้ว คนเหล่านั้นได้ยินพระองค์ทรงกล่าวโทษ ตรัสถ้อยคำกล่าว ร้ายหรือถ้อยคำโมโหฉุนเฉียว ขอให้เราอย่าลืมว่าคนทั้งหลายที่รักพระองค์ จะต้องเป็นแบบอย่างที่สำแดงพระลักษณะนิสัยของพระองค์ให้ปรากฏแก่ ผู้อื่น {MH 489.1}MHTh 556.1

    “จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่า ผู้อื่นดีกว่าตัว,, “อย่าทำการร้ายตอบแทนการร้ายอย่าด่าตอบการด่า แต่ ตรงกันข้ามจงอวยพรแก่เขา ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงเรียกให้ท่านกระทำ เข่นนั้น เพี่อท่านจะได้รับพระพร,, โรม 12:10; 1 เปโตร 3:9 {MH 489.2} องค์พระเยซูทรงปรารถนาให้เราเคารพในสิทธิของมนุษย์ทุกคน เรา จะต้องให้ความสำคัญในสิทธิของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในสังคมและ สิทธิในฐานะของคริสเตียน เราจะต้องปฏิบัติต่อทุกๆ คนด้วยความสุภาพ อ่อนโยน ในฐานะที่เขาเป็นบุตรชายหญิงของพระเจ้า {MH 489.3}MHTh 556.2

    คริสตศาสนาจะทำให้ผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ พระเยซูทรงมีความสุภาพ อ่อนโยน แม้กระทั้งต่อผู้ที่กดขี่ข่มเหงพระองค์ และผู้ที่ติดตามพระองค์ อย่างแท้จริงจะแสดงออกถึงนํ้าใจอย่างเดียวกัน จงพิจารณาดูเปาโล เมื่อ เขาถูกนำตัวมาต่อหน้าผู้ปกครองบ้านเมือง ถ้อยคำของเขาที่กล่าวต่อ อากริปปาเป็นแบบอย่างของความสุภาพอ่อนโยนที่แท้จริงและเป็นสำนวน โวหารที่หว่านล้อมจิตใจ ข่าวประเสริฐไม่สนับสนุนเราให้แสดงความสุภาพ อ่อนโยนตามสมัยนิยมของชาวโลก แต่เป็นความสุภาพอ่อนโยนที่สำแดง จากจิตใจที่มีความเมตตากรุณาโดยแท้จริง {MH 489.4}MHTh 556.3

    การปลูกฝังอย่างเอาใจใส่ที่สุดในเรื่องของมารยาทภายนอกที่แสดง ออกในชีวิต ก็ยังไม่เพียงพอที่จะไปขจัดอุปนิสัยที่วิตกกังวล การตัดสินที่ รุนแรงและคำพูดที่ไม่เหมาะสมออกไปได้ทั้งหมด ตราบใดที่เรายังคิดว่าตัว ตนของเราเองมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เราก็ยังมิอาจแสดงมารยาทที่ สุภาพเรียบร้อยออกมาได้อย่างแท้จริง เราต้องมีความรักอยู่ภายในจิตใจ คริสเตียนที่มีอุปนิสัยงดงามเกิดแรงดลใจในจุดมุ่งหมายของการกระทำของ เขาจากความรักอันลึกซึ้งในใจของเขาที่มีต่อจอมเจ้านายของเขา ความ เอาใจใส่ในพี่น้องอย่างไม่เห็นแก่ตัวจะบังเกิดขึ้นได้จากความรักของเขาใน พระคริสต์ ความรักจะถ่ายเทแก่ผู้เป็นเจ้าของให้มีมารยาทที่งามสง่า มี ความประพฤติที่ถูกทำนองคลองธรรมและมีบุคลิกลักษณะที่งดงาม จะส่อง ประกายฉายแววออกมาทางใบหน้าและกลั่นกรองสำเนียงวาจา จะชำระ ให้บริสุทธิ์และยกชตัวตนทั้งร่างของผ้เป็นเจ้าของ {MH 490.1}MHTh 557.1

    ชีวิตไม่ใช่ประกอบขึ้นจากการเสียสละอันยิ่งใหญ่และความสำเร็จอัน น่าอัศจรรย์ แต่จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นส่วนใหญ่ บ่อยครั้งที่สุด โดยอาศัย สิ่งเล็กน้อยที่ไม่คู่ควรแก่ความสนใจเหล่านี้ที่ความดีและความชั่วที่สำคัญๆ ข้องแวะเข้ามาในชีวิตของเรา โดยอาศัยความล้มเหลวของเราในการอดทน ต่อการทดลองเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้นิสัยลูกหล่อหลอม อุปนิสัยลูกปลูกฝัง ไปในทางที่ผิด และเมื่อต้องเผชิญต่อการทดลองที่ใหญ่โตกว่า เราก็ไม่ พร้อมที่จะรับมือไต้ โดยการยึดมั่นในหลักการของการทดสอบในชีวิต ประจำวันเท่านั้น เราจึงจะมีกำลังที่จะยืนหยัดและสัตย์ซื่ออยู่ในสถานการณ์ อันตรายและยากลำบากที่สุดไต้ {MH 490.2}MHTh 557.2

    เราไม่ไต้อยู่อย่างโดดเดี่ยวแต่อย่างใด ไม่ว่าเราจะเลือกพระองค์หรือ ไม่ เรายังมีสหายอยู่ท่านหนึ่ง จงจำไว้ว่า ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าท่าน จะกระทำสิ่งใด พระเจ้าสถิตอยู่ที่นั่นด้วย ไม่มีสิ่งใดที่ท่านพูด ที่ท่านท่า ที่ ท่านคิดจะรอดพ้นความสนใจของพระองค6ได้ ต่อทุกคำพูดหรือการกระทำ ของท่าน ท่านมีพยานรู้เห็นอยู่ ผู้นั้นคือพระเจ้าองค์บริสุทํธิ์ ผู้ทรงชิงชังใน ความผิดบาป ดังนั้น ก่อนที่ท่านจะพูดและกระทำการใดๆ ขอให้ท่านได้ คิดถึงสิ่งนี้เสมอ ในฐานะที่เป็นคริสเตียน ท่านเป็นสมาชิกคนหนึ่งใน ครอบครัวของพระเจ้า เป็นบุตรคนหนึ่งขององค์มหากษัตรียาแห่งสวรรค์ จงอย่ากล่าวถ้อยคำหรือกระทำการใดที่จะนำการลบหลู่ดูหมิ่นพระเกียรติ ต่อ “พระนามอันประเสริฐซึ่งใช้เรียกท่าน” ยากอบ 2:7 {MH 490.3}MHTh 558.1

    จงหมั่นศึกษาอย่างตั้งใจถึงพระลักษณะความเป็นมนุษย์ของพระองค์ และถามตัวเองอยู่เสมอว่า “พระเยซูจะทรงกระทำเช่นไร ถ้าพระองค์ทรง อยู่ในฐานะเช่นเดียวกับข้าพระองค์” สิ่งนี้ควรใช้ตรวจสอบหน้าที่ความรับ ผิดชอบของเรา จงอย่านำตัวเองไปพึ่งพาโดยไม่จำเป็นกับคนทั้งหลายที่ เต็มไปด้วยคิลปะในการบั่นทอนความตั้งใจทำในสิ่งที่ดีของท่านหรือนำมล ทินมาสู่จิตสำนึกของท่าน จงอย่ากระทำสิ่งใดที่ส่อไปในทางเลวชั่วแม้แต่ เพียงเล็กน้อยท่ามกลางคนแปลกหน้า ตามถนนหนทาง ในรถหรือในบ้าน ให้ปรากฏ ในทุกๆ วัน จงทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อปรับปรุง เสริมแต่งให้ งดงาม เสริมสร้างให้สง่างามยิ่งขึ้นแก่ชีวิตที่พระคริสต์ทรงชำระด้วยพระ โลหิตของพระองค์ {MH 491.1}MHTh 558.2

    จงปฏิบัติตนตามหลักการเสมอ ไม่ใช่ตามอารมณ์ชั่ววูบ ความสุภาพ อ่อนโยนจะช่วยให้นิสัยตามปกติที่หุนหันพลันแล่นของท่านเยือกเย็นลง อย่าหลงระงมอยู่กับเรื่องไร้สาระหรือเรื่องหยุมหยิม อย่าให้คำพูดตลก คะนองหลุดออกจากปากของท่าน แม้แต่ความคิดก็ไม่ควรปล่อยให้ฟังซ่าน ความคิดเหล่านี้ต้องถูกควบคุมและนำมากักขังไว้ในความเชื่อฟังของพระ คริสต์ ให้ความคิดเหล่านี้ตั้งมั่นอยู่ในสิ่งที่บริสุทธิ์แล้ว โดยอาศัยพระคุณ ของพระคริสต์ความคิดเหล่านี้จะบริสุทธิ์และชอบธรรม {MH 491.2}MHTh 558.3

    เราจำเป็นต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาถึงพละกำลังที่เสริมสร้างความ สง่างามให้แก่ความคิดที่บริสุทธิ์ ทางรอดทางเดียวสำหรับจิตวิญญาณของ เราคือการคิดคำนึงในทางที่ลูกต้องชอบธรรม “เขาคิดในใจอย่างไร เขาก็ เป็นอย่างนั้น” สุภาษิต 23:7 (TKJV) การแกฝนจะช่วยให้เราควบคุม ตนเองได้ดีขึ้น สิ่งที่ดูเสมือนว่าทำได้ยากในช่วงแรกๆ ก็จะง่ายขึ้นเมื่อกระ ทำซํ้าๆ กันอยู่เสมอ จนกระทั่งความเคยชินในการคิดและในการกระทำ กลายเป็นนิสัย ถ้าเราตั้งใจจริง เราจะสามารถหันไปจากสิ่งที่ไร้ค่าและด้อย ในคุณค่า และก้าวขึ้นสู่มาตรฐานที่สูงส่ง เราจะได้รับการเคารพนับถือจาก มนุษย์และเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้า {MH 491.3}MHTh 558.4

    จงบ่มเพาะนิสัยที่พูดถึงผู้อื่นในด้านดี จงจำแต่คุณสมบัติที่ดีของผู้ที่ ท่านคบหาสมาคมด้วย และพยายามมองถึงข้อบกพร่องและความผิดพลาด ของเขาให้น้อยที่สุด เมื่อเราถูกทดลองให้พร่ำบ่นถึงสิ่งที่บางคนได้พูดหรือ กระทำ ขอให้เราชมข้อดีบางสิ่งในชีวิตหรืออุปนิสัยของเขาบาง จงปลูกฝัง ความมีใจกตัญฌูรู้ตุณ จงสรรเสริญพระเจ้าสำหรับความรักอันน่าอัศจรรย์ ของพระองค์ที่ประทานพระคริสต์มาสิ้นพระชนม์เพื่อเรา การเฝ้าตรอมใจ อยู่ในความลำบากของเราเองไม่เคยให้ผลตอบแทนที่ตุ้มค่ากลับคืนมา พระเจ้าทรงเรียกเราให้คิดตรึกตรองถึงพระเมตตาคุณของพระองค์และ ความรักที่หาที่เปรียบไม่ได้ของพระองค์ เพื่อดลใจของเราให้เต็มไปด้วย การสรรเสริญ {MH 492.1}MHTh 559.1

    ผู้ที่ทำงานด้วยใจร้อนรนย่อมไม่มีเวลานึกถึงข้อบกพร่องของผู้อื่น เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยการพึ่งพาข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดของ ผู้อื่น การกล่าวคำชั่วร้ายเป็นคำสาปแช่งสองทบ ส่งผลร้ายที่รุนแรงแก่ผู้ พูดมากกว่าผู้ฟัง ผู้ที่หว่านเมล็ดพันธุแห่งความแตกแยกและความขัดแย้ง ย่อมเป็นผู้ที่ต้องดิ้นรนเก็บเกี่ยวผลแห่งความตายในจิตวิญญาณของตนเอง โดยเฉพาะพฤติกรรมที่คอยมองหาแต่ความชั่วร้ายของผู้อื่นย่อมส่งเสริมให้ ความชั่วนั้นเติบโตขึ้นในตัวของผู้ที่เฝ้ามองเอง โดยการคิดถึงแต่ข้อบกพร่อง ของผู้อื่น เราเองจะลูกเปลี่ยนไปมีลักษณะแบบเดียวกับคนนั้น แต่โดยการ มองไปยังพระเยซู โดยการพูดถึงความรักและความบริบูรณ์ดีเลิศในพระ ลักษณะของพระองค์ เราเองก็จะเปลี่ยนไปเหมือนกับพระฉายาของ พระองค์ ด้วยการใคร่ครวญถึงแบบอย่างอันสูงส่งที่พระองค์ทรงส่าแดงไว้ ต่อหน้าเรา เราจะได้รับการยกชูขึ้นสู่บรรยากาศที่บริสุทธิ์ชอบธรรมระดับ เดียวกับต่อเบื้องพระพักตร์ชองพระเจ้า เมื่อเราอยู่ ณ สถานที่เช่นนี้ ก็จัก มีพลังแผ่กระจายจากตัวเราไปสู่คนทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับเรา {MH 492.2} MHTh 559.2

    แทนที่จะวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิผู้อื่น ควรพูดว่า “ข้าพเจ้าต้อง วางแผนเพื่อความรอดของตัวข้าพเจ้าเอง ถ้าข้าพเจ้าร่วมมือกับพระองค์ ผู้ทรงปรารถนาที่จะกู้จิตวิญญาณของข้าพเจ้าให้ได้รับความรอด ข้าพเจ้า ต้องหมั่นตรวจสอบตัวของข้าพเจ้าเองอย่างจริงจัง ข้าพเจ้าต้องกำจัดความ ชั่วร้ายทุกอย่างในชีวิตออกไป ข้าพเจ้าต้องเอาชนะข้อบกพร่องทุกประการ ข้าพเจ้าต้องกลายเป็นคนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในพระคริสต์ ด้งนั้น แทนที่จะ บั่นทอนเรี่ยวแรงของผู้ที่กำลังต่อสู้กับความชั่วร้าย ข้าพเจ้าจะสนับสนุน คนเหล่านั้นด้วยคำพูดที่ส่งเสริมกำลังใจ” มนุษย์ทำตัวไม่สนใจใยดีต่อกัน และกันมากไปหน่อย บ่อยครั้ง เราลืมไปว่าเพื่อนร่วมงานของเราก็ต้องการ กำลังและการหนุนจิตใจให้แช่มชื่น จงใส่ใจในการให้ความมั่นใจแก่คน เหล่านั้นถึงความห่วงใยและเห็นใจของท่าน จงช่วยเหลือเขาทั้งหลายด้วย คำอธิษฐานของท่านและให้เขาทั้งหลายทราบว่าท่านท่าจริง {MH 492.3}MHTh 560.1

    ม่ใช่ทุกคนที่แสดงตนว่าเป็นผู้ร่วมงานของพระคริสต์จะเป็นสาวก ที่แท้จริง ในบรรดาคนทั้งหลายที่ยอมรับในพระนามของพระองค์และแม้แต่ ผู้ที่ลูกนับว่าเป็นผู้ร่วมงานของพระองค์ ยังมีบางคนที่ไม่ได้เป็นแบบอย่าง ซึ่งแสดงถึงพระลักษณะนิสัยของพระองค์ คนเหล่านี้ไม่ได้ตำเนินตามหลัก คำสอนของพระองค์ และมักเป็นผู้ที่ท่าให้ผู้ร่วมงานที่เป็นผู้เชื่อใหม่เกิด ความสับสนและหมดกำลังใจ ซึ่งผู้เชื่อใหม่เหล่านี้ไม่น่าต้องมาลูกชักจูงให้ เขว พระคริสต์ใต้ประทานตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบให้แก่เรา พระองค์ทรงมี บัญชาให้เราเดินตามพระองค์ {MH 493.1}MHTh 560.2

    ตราบจนถึงยุคสิ้นสุดเวลาย่อมจะมีข้าวละมานปะปนอยู่ท่ามกลาง ข้าวสาลี เมื่อผู้รับใช้ของเจ้าบ้าน ด้วยความต้องการไต้รับคำเยินยอ ขอ อนุญาตถอนข้าวละมานออกไปเสีย แต่นายได้ตอบว่า “อย่าเลย เกลือกว่า เมื่อกำลังถอนข้าวละมานจะถอนข้าวดีด้วย ให้ทั้งสองจำเริญไปด้วยกัน จนถึงฤดูเกี่ยว” มัท่ธิว 13:29,30 {MH 493.2}MHTh 560.3

    ด้วยพระเมตตาคุณและทรงอดทนนานของพระเจ้า พระองค์ทรง อดกลั้นต่อผู้ที่กบฏและแม้แต่ผู้ที่ใจคด ในบรรดาอัครสาวกที่พระองค์ทรง เลือกสรรนั้น ก็ยังมียูดาสผู้ทรยศรวมอยู่ด้วย เราควรรู้สึกประหลาดใจหรือ ท้อถอยกระนั้นหรือ ถ้าจะมีผู้ที่ใจคดปะปนอยู่กับผู้ร่วมงานของพระองค์ใน ทุกวันนี้ ถ้าพระองค์ผู้ทรงอ่านจิตใจของมนุษย์ได้ ยังอดทนต่อผู้ที่พระองค์ ทรงทราบดีว่าจะเป็นผู้ทรยศต่อพระองค์ละแล้ว เราก็ควรจะมีความอดทน ต่อคนบกพร่องเหล่านั้นเช่นเดียวกัน {MH 493.3}MHTh 561.1

    และไม่ใช่ทุกคน แม้แต่คนที่ดูเหมือนว่าจะบกพร่องมากที่สุด เป็น ด้งเช่นยูดาส เปโตรเป็นคนใจร้อน หุนหันพลันแล่น และเชื่อมั่นในตนเอง บ่อยครั้งดูเหมือนว่าจะมีจุดอ่อนมากกว่ายูดาสเสียอีก พระผู้ช่วยให้รอด ทรงตักเตือนเขาบ่อยกว่าคนอื่น แต่ชีวิตรับใช้และเสียสละเพื่อผู้อื่นของ เขาเป็นเช่นไร คำพยานของเขาแสดงถึงฤทธิ์เดชในพระคุณของพระเจ้า เพียงไร เท่าที่พอจะสามารถทำได้ เราจะต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนอย่าง ที่พระเยซูทรงปฏิบัติต่อเหล่าสาวกของพระองค์ ในสมัยที่พระองค์ทรง ดำเนินและสนทนาร่วมกับเขาทั้งหลายในโลกนี้ {MH 493.4}MHTh 561.2

    ก่อนอื่นในบรรดาเพื่อนร่วมงานของท่าน ให้ถือว่าตัวท่านเองเป็น ผู้เผยแพร่ศาสนา บ่อยครั้งการชักนำจิตวิญญาณดวงหนึ่งมาหาพระคริสต์ ไต้นั้นต้องใช้เวลาและแรงงานอย่างมากมาย และเมื่อจิตวิญญาณดวงหนึ่ง หันจากความผิดบาปมาสู่ความชอบธรรม จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลาง เหล่าทูตสวรรค์ ท่านคิดว่าทูตสวรรค์ที่ถูกส่งมาดูแลจิตวิญญาณเหล่านั้น รู้สึกชื่นชมยินดีเมื่อเห็นบางคนที่แสดงตนว่าเป็นคริสเตียนปฏิบัติต่อคน เหล่านั้นอย่างไม่มีความสำคัญกระนั้นหรือ หากพระเยซูทรงปฏิบัติต่อเรา เหมือนอย่างที่เรามักจะปฏิบัติต่อคนอื่นๆ แล้ว จะมีสักกี่คนในหมู่พวกเรา ที่จะได้รับความรอด {MH 493.5}MHTh 561.3

    จงจำไว้ว่าท่านอ่านจิตใจของคนอื่นไม่ได้ ท่านไม่ทราบแรงจูงใจที่ กระตุ้นการกระทำซึ่งท่านมองว่าผิด มีหลายคนที่ไม่ได้รับการศึกษาที่ลูก ต้อง อุปนิสัยของคนเหล่านั้นจึงคดงอ คนเหล่านั้นมีจิตใจที่แข็งกระด้างและ ก้าวร้าว และดูเหมือนว่าจะเป็นคนคดโกงในทุกด้าน แต่พระคุณของพระ คริสต์ทรงเปลี่ยนแปลงคนเหล่านั้นได้ จงอย่าละทิ้งเขาทั้งหลายไป อย่า ผลักไสให้เขาทั้งหลายต้องรู้สึกหมดหวังด้วยการพูดว่า “ท่านทำให้ฉันต้อง ผิดหวัง และฉันจะไม่อดทนที่จะช่วยท่านอีกต่อไป” คำพูดต่อว่าไม่กี่คำที่ ออกจากปากอย่างกระทันหัน ตามที่เราคิดว่าเหมาะสมสำหรับคนเหล่านั้น อาจตัดพันธะผูกพันจิตใจของเขาทั้งหลายกับจิตใจของเราให้ขาดสะทั้นลง {MH 494.1}MHTh 562.1

    ชีวิตที่มีความเสมอตันเสมอปลาย มีความอดทนอดกลั้น มีจิตใจที่ สงบเยือกเย็นแม้จะถูกยั่วยุต่อว่า ย่อมจะเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดแจ้งที่สุดและ เป็นคำเชิญชวนที่จริงใจที่สุด ถ้าท่านยังไม่มีโอกาสใช้คุณสมปติเหล่านี้แก่ ผู้!,ด จงพิจารณาใคร่ครวญดูและขอให้ท่านเป็นครูที่ประกอบด้วยสติปัญญา ความสุภาพอ่อนโยนและความสุขุมรอบคอบ {MH 494.2}MHTh 562.2

    เพื่อจะให้ขี้ผึ้งมีรอยประทับของตราที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจน ท่าน ต้องไม่ริบร้อนใช้แรงกดลงไปอย่างรวดเร็ว ท่านต้องค่อยๆ วางตราอย่าง ระมัดระวังลงบนขี้ผึ้งหลอมและกดลงไปเบา ๆ อย่างมั่นคงจนกระทั้งขี้ผึ้ง แข็งตัวอยู่ในแม่พิมพ์ ขอให้เราปฏิบัติต่อจิต’วิญญาณของมนุษย์ในลักษณะ เดียวกัน แรงชักจูงอย่างต่อเนื่องที่มีอยู่ในชีวิตของคริสเตียนเป็นเคล็ดลับ ของพลัง และทั้งหมดนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ท่าน แสดงพระลักษณะของพระคริสต์ให้ปรากฏ จงช่วยคนทั้งหลายที่ได้กระทำ ผิด โดยการบอกเล่าแก่คนเหล่านั้นถึงปร ะสบการณ์ของท่าน จงแสดงให้ เห็นว่า เมื่อท่านกระทำความผิดอย่างร้ายแรงนั้น ความอดทน ความเมตตา กรุณาและความช่วยเหลือของเพื่อนร่วมงานของท่านสร้างกำลังใจและความ หวังขึ้นมาใหม่แก่ท่านได้อย่างไร {MH 494.3}MHTh 562.3

    จนกว่าจะถึงวันพิพากษา ท่านไม่มีทางจะทราบถึงผลแห่งความ เมตตากรุณาและเห็นอกเห็นใจต่อคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ คนไร้เหตุผล และคนที่ไร้คุณค่า เมื่อเราประสบกับผู้ที่อกตัญฌูและหักหลังต่อการเชื่อ วางใจในพระเจ้า เรามักจะแสดงอาการลูลูกเหยียดหยามหรือโกรธเคือง ซึ่งเรื่องนี้คนที่กระทำผิดย่อมคาดการณ์และเตรียมรับอยู่แล้ว แต่ความ อดทนอดกลั้นด้วยจิตใจที่เมตตา จะทำให้คนเหล่านั้นประหลาดใจ และ บ่อยครั้งจะปลุกแรงจูงใจในสิ่งที่ดีกว่าและกระตุ้นความต้องการชีวิตที่สูงส่ง ยิ่งขึ้นของคนเหล่านั้น {MH 495.1}MHTh 563.1

    “พีน้องทั้งหลาย ถ้าผู้ใดถูกครอบงำอยู่ในความผิดบาป ท่านซึ่งอยู่ ฝายพระวิญญาณ จงช่วยผู้นั้นด้วยใจอ่อนสุภาพให้เขากลับตั้งตัวใหม่ โดย คิดถึงตัวเอง เกรงว่าท่านจะถูกชักจูงให้หลงไปด้วย จงช่วยรับภาระของกัน และกัน ท่านจึงจะได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระคริสต์” กาลาเทีย ธ:1, 2 (TKJV) {MH 495.2}MHTh 563.2

    คนทั้งหลายที่แสดงตนว่าเป็นบุตรของพระเจ้าควรจดจำไว้ในใจว่า ในฐานะที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนา พวกเขาจะต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับคนที่มี ความคิดเห็นทุกระดับ มีทั้งคนที่สุภาพเรียบร้อยและคนที่หยาบกระด้าง คนที่ถ่อมตนและคนที่เย่อหยิ่ง คนที่เคร่งศาสนาและคนที่ไม่เชื่อ คนที่มี การศึกษาและคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนมั่งมีและคนยากจน สติปัญญาที่ แตกต่างกันอย่างนี้ย่อมไม่อาจได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน แต่กระนั้น ทุกระดับต่างก็ต้องการความเมตตากรุณาและความเห็นอกเห็นใจอย่าง เดียวกัน ด้วยการติดต่อซึ่งกันและกัน จิตใจของเราควรจะได้รับการ ขัดเกลาและการกลั่นกรอง เราทั้งหลายต่างต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และมีความผูกพันใกล้ชิดกันด้วยสายใยแห่งความเป็นพี่น้องมนุษย์ร่วมกันMHTh 563.3

    “พระเจ้าทรงสร้างเราทั้งหลายให้ใต้พึ่งพิงกัน
    นาย หรือ บ่าว หรือมิตรสหาย
    ต่างก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือ
    กระทั้งความอ่อนแอของคนๆ หนึ่งจ้กได้เจริญขึ้นจนกลายเป็น
    กำลังของทุกๆ คน”
    MHTh 563.4

    {MH 495.3}

    คริสต์ศาสนาเผยแพร่สู่ชาวโลกได้ก็โดยอาศัยความสัมพันธ์ทาง สังคม ชายหญิงทุกคนที่ไต้รับแสงสว่างจากพระเจ้าจักต้องฉายแสงนั้นไป ในหนทางที่มืดมิดของผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับหนทางแห่งความรอด แรงขับ เคลื่อนที่มิอยู่ในสังคม หากชำระให้บริสุทธิ์โดยพระวิญญาณของพระคริสต์ ต้องถูกพัฒนาให้สามารถนำจิตวิญญาณทั้งหลายมาหาพระผู้ช่วยให้รอด เราต้องไม่เก็บซ่อนพระคริสต์ไว้ในจิตใจของเราราวกับเป็นทรัพย์สมบัติิที่ ซ่อนไว้อย่างเห็นแก่ตัว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันมิค่า เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของชื่นชม เพียงผู้เดียว เราจะต้องมีพระคริสต์สถิตอยู่ในจิตใจของเราเหมือนดั่งบ่อนํ้า พุที่พลุ่งขึ้นลู่ชีวิตนิรันดร สร้างความชุ่มชื่นแก่คนทั้งหลายที่ติดต่อเกี่ยวข้อง กับเรา {MH 496.1}MHTh 564.1

    *****