Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
บหัศจรรย์แห่อการรักษา - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    บทกี่ 6 - รอดเพื่อจ:ได้ริบๆ

    เป็นเวลารุ่งเช้าในทะเลสาบกาลิลี เมื่อพระเยซูและเหล่าสาวกของ พระองค์ได้มาถึงฝัง ภายหลงจากที่ต้องเผชิญกับคาคืนอันปันป่วนด้วย พายุกล้าอยู่กลางท้องทะเล แสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งได้สาดส่องผืนนํ้าและ แผ่นดินประหนึ่งว่าเป็นพระพรแห่งสันติลุฃ แต่เมื่อพระเยซูและเหล่าสาวก ได้ก้าวขึ้นบนฝัง พวกเขาก็ต้องประสบกับภาพอันน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าท้อง ทะเลอันปันป่วน จากที่ๆ ได้หลบซ่อนตัวสักแห่งหนึ่งในท่ามกลางหลุม ฝังศพ ชายวิกลจริตสองคนได้ปรี่ตรงเข้ามาราวกับว่าจะฉีกพวกเขาให้แหลก เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชายเหล่านื้ได้หลบหนีออกมาจากการจำจอง โซ่ตรวน ที่เคยล่ามพวกเขาไว้นั้นได้ห้อยโตงเตงอยู่รอบตัวเขา เนื้อตัวของเขาถลอก ปอกเปิกและมีเลือดอาบ ดวงตาของเขาถมึงทึงมองลอดผ่านผมที่ยาวกระเซิง ดูประหนึ่งว่าความเป็นมนุษย์ใต้ถูกลบเลือนไปจนหมดสิ้น เมื่อมองไปแล้ว พวกเขาดูคล้ายสัตว์ป่ามากกว่าคน {MH 95.1}MHTh 88.1

    เหล่าสาวกและพวกที่ติดตามมาด้วยกันพากันวิ่งหนีไปด้วยความ หวาดกลัว แต่ในไม่ช้าเขาทั้งหลายก็สังเกตเห็นว่าพระเยซูทรงมิได้มาด้วย และเขาทั้งหลายหันกลับไปดู จึงแลเห็นว่าพระองค์ประทับอยู่ตรงที่ๆ เขา ทั้งหลายได้ทิ้งพระองค์ไว้ พระองค์ผู้ทรงห้ามคลื่นลมพายุให้สงบลงได้ พระองค์ ผู้ได้ทรงเผชิญหน้ากับซาตานและทรงได้รับชัยชนะเหนือมันมาก่อน พระ องค์มิได้ทรงหลบลี้หนีเหล่าผีร้ายนึ้ไป เมื่อชายทั้งสองที่ได้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มีนํ้าลายไหลฟูมปากได้เดินรี่เข้ามาหาพระองค์ พระเยซูทรงยกพระหัตถ์ ซึ่งได้เคยห้ามคลื่นลมให้สงบ จากนั้นชายทั้งสองก็ไม่อาจที่จะเข้ามาใกล้ พระองค์ได้มากไปกว่านั้น พวกเขาได้แต่ยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ แสดงท่าที เกรี้ยวกราดแต่ก็มิอาจท่าอะไรพระองค์ได้ {MH 95.2}MHTh 89.1

    พระองค์ตรัสสั่งด้วยสิทธิอำนาจให้ผีโสโครกออกมาจากพวกเขา ชายผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองนั้นรู้ดีว่าพระองค์ผู้ประทับอยู่ใกล้ๆ เขานั้น ทรง สามารถช่วยให้หลุดพ้นจากผีร้ายที่ทรมานเขาได้ เขาได้ซบลงแทบพระ บาทของพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อทูลขอพระเมตตา แต่เมื่อพวกเขาเผยอปาก ที่จะพูด ผีร้ายที่สิงอยู่ในตัวเขาก็ได้ร้องขึ้นมาว่า “ท่านผู้เป็นพระบุตรของ พระเจ้า ท่านจะมายุ่งกับพวกเราทำไม จะมาทรมานพวกเราก่อนเวลา หรือ” มัทธิว 8:29 {MH 96.1}MHTh 89.2

    วิญญาณชั่วถูกบังคับให้ปล่อยผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองไป จากนั้นจึงได้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่ามหัศจรรย์แก่ชายทั้งสองที่ลูกผีสิง แสงสว่างได้ ฉายเข้ามายังจิตใจ ดวงตาของพวกเขาได้ส่องประกายถึงความรู้สึกนึกคิด ใบหน้าที่พิกลพิการมาเนิ่นนานจนน่าเกลียดดูเหมือนรูปล้กษณ์ของซาตาน ได้กลับกลายเป็นใบหน้าที่อ่อนโยนลงในบัดดล มือที่เปีอนโลหิตกลับสงบ นิ่งและชายทั้งสองต่างได้เปล่งเสียงสรรเสริญพระเจ้า {MH 97.1}MHTh 89.3

    ในระหว่างนั้น ผีร้ายที่ลูกขับออกจากการที่ได้สิงสู่อยู่ในมนุษย์ใต้ เข้าไปสิงอยู่ในฝูงสุกรแทนและสุกรทั้งฝูงก็ไดโจนลงทะเลตายไป คนเลี้ยง สุกรรีบกระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว ด้งนั้นคนทั้งเมืองจึงได้พากันมา เฝัาพระเยซู คนที่ลูกผีสิงสองคนนั้น เคยเป็นที่หวาดกลัวของคนทั้งเมือง บัดนี้ชายทั้งสองนุ่งห่มเสื้อผ้าเรียบร้อยและมีสติที่สมบูรณ์ กำลังนั่งอยู่แทบ พระบาทพระเยซู ฟังพระวจนะของพระองค์และสรรเสริญพระนามของ พระองค์ผู้ใต้ทรงโปรดรักษาพวกเขาให้หายเป็นปกติ แต่คนทั้งหลายที่ได้ เห็นเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์นี้หาได้มีความชื่นชมยินดีไม่ การที่ต้องสูญเสีย ฝูงสุกรนั้นดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญที่ยิ่งใหญ่กว่าการช่วยชายทั้งสอง ให้หลุดพ้นจากการตกเป็นเชลยของซาตาน ด้วยความตกใจกลัว พวกเขา จึงได้พากันมาชุมนุมห้อมล้อมพระเยซู และทูลขอให้พระองค์เสด็จไปเสีย จากพวกเขา ด้งนั้นพระองค์จึงทรงปฏิบัติตามคำทูลร้องขอ เสด็จลงเรือ ข้ามไปยังฝังตรงข้ามโดยมิรอช้า {MH 97.2}MHTh 89.4

    ชายที่ถูกผีสีงที่ได้รับการทรงช่วยเหลือให้พ้นจากอำนาจชั่วร้ายกลับ มีความรู้สึกที่แตกต่างกับชาวเมืองเป็นอย่างมาก พวกเขาปรารถนาที่จะได้ มีสัมพ้นธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ผู้ทรงช่วยกู้พวกเขา เมื่อได้อยู่ต่อเบื้องพระ พักตร์ของพระองค์ พวกเขารู้สึกปลอดภัยจากเหล่าผีร้ายที่ไต้ทรมานชีวิต ของเขา และทำให้ชีวิตในวัยหนุ่มของพวกเขาต้องสูญเสียไป ในขณะที่ พระเยซูทรงกำลังจะเสด็จลงเรืออยู่นั้น คนทั้งสองได้เข้ามา คุกเข่าลงแทบ พระบาทของพระองค์และวิงวอนขอให้ใต้อยู่ใกล้ชิดพระองค์เพื่อจะได้ฟัง พระวจนะของพระองค์ แต่พระเยซูทรงมีพระดำรัสสั่งให้ทั้งสองกลับบ้านไป และให้บอกเล่าถึงการใหญ่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไต้ทรงกระทำแก่เขาทั้งสอง {MH 98.1}MHTh 90.1

    นี่เป็นงานที่พวกเขาจะต้องกระทำ ซึ่งก็คือ จะต้องไปยังบ้านของผู้ ที่ยังไม่เชื่อพระเจ้าและเล่าเรื่องพระพรที่พวกเขาได้รับมาจากพระเยซู เป็น เรื่องยากที่จะให้เขาทั้งสองต้องแยกไปจากพระผู้ช่วยให้รอด และการที่จะ ต้องไปพบปะเพื่อนพี่น้องที่ยังไม่เชื่อพระเจ้าเพื่อการเป็นพยานนั้น นับว่า เป็นงานที่น่าหนักใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่ไต้เหินห่างจากสังคมมาเป็น ระยะเวลายาวนานดูเหมือนว่าจะทำให้เขาทั้งสองขาดคุณสมบ้ติที่เหมาะสม เพี่อที่จะกระทำงานนี้ แต่ทันทีที่พระองค์ทรงชี้ให้เห็นถึงหน้าที่ของพวกเขา แล้ว พวกเขาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม {MH 98.2}MHTh 90.2

    คนทั้งสองมิได้เพียงแต่จะบอกเรื่องราวของพระเยซูให้กับคนใน ครอบครัวและเพื่อนบ้านของเขาเท่านั้น แต่ยังได้ไปทั่วแว่นแคว้นทศบุรี ไป ยังทั่วทุกหนแห่งประกาศถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่ทรงสามารถช่วยให้ รอดและอธิบายว่าพระองค์ใต้ทรงปลดปล่อยเขาให้หลุดพ้นจากอำนาจของ ผีร้ายได้อย่างไร {MH 98.3}MHTh 91.1

    แม้ว่าชาวเมืองเกอร์กาซี (กาดารา) จะยังไม่ได้ต้อนรับพระเยซูก็ตาม แต่พระองค์ก็มืได้ทรงละทิ้งคนที่นั่นไว์ในความมืดที่เขาทั่งหลายได้เป็นผู้ เลือกเอง เมื่อขอร้องให้พระองค์เสด็จไปจากเขาทั่งหลายนั้น เขาทั่งหลาย ยังไม่มีโอกาสได้ฟังพระคำของพระองค์เลย ยังไม่รู้ถึงสิ่งที่เขาทั่งหลายได้ ปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงประทานแสงสว่างให้แก่พวกเขาโดยผ่าน ผู้ที่พวกเขาไม่ปฏิเสธที่จะรับฟัง {MH 98.4}MHTh 91.2

    โดยการท่าลายฝูงสุกร ซาตานมีความมุ่งหมายที่จะหันเหจิตใจของ ประชาชนไปจากพระผู้ช่วยให้รอดและขัดขวางการประกาศข่าวประเสริฐ ในแว่นแคว้นนั้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กลบท่าให้ชาวเมืองเกิดความ ตื่นเต้นอย่างที่ไม่มีสิ่งใดจะกระท่าได้มาก่อน และไต้หันความสนใจของ เหล่าประชาชนไปยังพระคริสต์ แม้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดไต้เสด็จจากไปแล้ว ก็ตาม ชายสองคนที่พระองค์ใต้ทรงรักษาให้หายก็ยังคงอยู่เป็นพยานถึง ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ต่อไป คนเหล่านี้ที่เคยตกเป็นเครื่องมือของเจ้า แห่งความมืดได้กลับกลายมาเป็นช่องทางของแสงสว่าง โดยเป็นทูตของ พระบุตรของพระเจ้า เมื่อพระเยซูเสด็จกลับไปยังแคว้นทศบุรี ฝูงชนได้ เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ ตลอดเวลาสามวันหลายพ้นคนจากดินแดนใกล้ เคียงได้ฟังข่าวแห่งความรอด {MH 98.5}MHTh 91.3

    ชายสองคนที่พระเยซูทรงขับผีออกจนหายเป็นปกติแล้วนั้น เป็น ผู้เผยแพร่ศาสนาสองคนแรกที่ได้ประกาศข่าวประเสริฐในแคว้นทศบุรี คน ทั่งสองนี้ได้ฟังพระคำของพระองค์เพียงชั่วเวลาเล็กน้อยเท่านั้น เขายัง ไม่เคยได้ยินคำเทศนาสั่งสอนใด ๆ จากพระโอษฐ์ของพระองค์แม้แต่น้อย เขาทั่งสองจึงไม่สามารถที่จะสั่งสอนประชาชนได้เหมือนกับเหล่าสาวกที่ ได้อยู่ร่วมกับพระคริสต์ทุกวันจะกระทำได้ แต่เขาทั้งสองเล่าในสิ่งที่เขาทราบ สิ่งที่เขาทั้งสองได้เห็น ไดัยินและไต้รู้สึกถึงฤทธิ์อำนาจของพระผู้ช่วยให้ รอดด้วยตนเอง นี่จึงเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนที่พระคุณของพระเจ้าได้สัมผัส ในจิตใจสามารถที่จะกระทำได้ เป็นคำพยานที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงเรียกร้องให้เรากระทำ และเมื่อขาดสิ่งนี้โลกก็กำลังถึงซึ่งความพินาศ {MH 99.1}MHTh 91.4

    ข่าวประเสริฐมิใช่สิ่งที่จะหยิบยกขึ้นมาแสดงเป็นทฤษฎีอันปราศจาก ชีวิต แต่เป็นฤทธิ์อำนาจที่ดำรงอยู่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ พระเจ้า ทรงมีพระประสงค์ให้ผู้รับใช้ของพระองค์ใต้เป็นพยานถึงความจริงที่ว่าโดย พระคุณของพระองค์ มนุษย์จะมีอุปนิสัยแบบเดียวกับพระคริสต์ใต้และ จักไต้มีความชื่นชมยินดีด้วยเพราะมั่นใจในความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงปรารถนาให้เราได้เป็นพยานให้กับความจริงที่ว่าพระองค์จะ มิทรงพอพระทัยจนกว่าทุก ๆ คนที่ยอมรับเอาความรอดจะได้รับการกอบกู้ และจะได้รับการทรงนำกลับคืนสู่สิทธิอันชอบธรรมที่จะได้เป็นบุตรชายหญิง ของพระองค์ {MH 99.2}MHTh 92.1

    แม้แต่คนทั้งหลายที่ได้ดำเนินชีวิตในทางที่น่ารังเกียจที่สุดสำหรับ พระองค์ พระองค์ก็ยังทรงยอมรับไว้ด้วยความเต็มพระทัย เมื่อคนเหล่านั้น กลับใจใหม่ พระองค์ก็จะประทานพระวิญญาณของพระเจ้าให้แก่เขาเหล่า นั้น และจะทรงใช้เขาให้ไปประกาศแก่ผู้ที่ไม่ซึ่อสัตย์ถึงพระกรุณาธิคุณของMHTh 92.2

    พระองค์ โดยฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์ จิตวิญญาณทั้งหลายที่แมัจะไดั เสื่อมทรามลงจนต้องตกเป็นเครื่องมือของซาตานก็ยังสามารถที่จะได้ รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้ใต้กลายเป็นทูตแห่งความชอบธรรมได้และทรง ใช่ให้ใปประกาศถึงการใหญ่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไต้ทรงประกอบกิจเพื่อเขา และทรงมีพระทัยกรุณาเมตตาต่อเขาทั้งหลายอย่างไร {MH 99.3}MHTh 92.3