Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
บหัศจรรย์แห่อการรักษา - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    บกท 5 - การเยียวยา รักษาจิตวิโนโนาโน

    หลายคนที่มาหาพระคริสต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระองค์เป็น ผู้นำโรคกัยมาสู่ตนเอง แต่กระนั้น พระองค์มิได้ทรงปฏิเสธที่จะรักษา พวกเขาให้หาย และเมื่อฤทธิ้อำนาจของพระองค์เข้าไปยังจิตวิญญาณของ คนเหล่านี้แล้ว พวกเขาสำนึกในความผิดบาปและหลายคนได้รับการรักษา ให้หายจากโรคในฝ่ายจิตวิญญาณและความเจ็บป่วยทางกายด้วย {MH 73.1}MHTh 68.1

    ในบรรดาคนป่วยเหล่านี้ มีคนง่อยแห่งเมืองคาเปอรนาอุมรวมอยู่ ด้วย คนง่อยผู้นี้ได้สูญสิ้นความหวงที่จะหาย เช่นเดียวกับคน๒คเรอน เรค ของเขาเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินชีวิตในทางแห่งความผิดบาป และเขาต้องขมขื่นใจกับความทุกข์ทรมาน เพราะเสียใจที่ได้ทำผิดไป เขา ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพวกฟาริสีและแพทย์ทั้งหลาย แต่ก็เปล่า ประโยชน์ คนเหล่านั้นต่างวินิจฉัยว่าโรคของเขารักษาไม่หาย ทั้งยังประณาม ว่าเขาเป็นคนบาปและประกาศว่าเขาจะต้องตายด้วยพระพิโรธของพระเจ้า {MH 73.2}MHTh 68.2

    คนง่อยรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก แต่หล้งจากที่เขาได้ยินถึงพระ- ราชกิจของพระเยซูว่า คนอื่นที่มีความผิดบาปและหมดหนทางเหมือนเขา ยังได้รับการรักษาให้หายได้ ด้งนั้นเขาจึงมืกำลังใจที่จะเชื่อว่าหากมีคนหาม เขาไปหาพระผู้ช่ว ยให้รอด เขาอาจจะได้รับการรักษาให้หา ยป่ว ยได้เช่น เดียวกัน แต่เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องป่วยเป็นโรคนี้เขาก็หมดหวัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมละทิ้งโอกาสที่จะไต้รับการรักษา {MH 73.3}MHTh 69.1

    ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเขาก็คือ การไต้รับการปลดเปลื้อง ให้หลุดพ้นจากภาระแห่งบาป เขาปรารถนาที่จะเข้าเฝืาพระเยซูและมั่นใจ ว่าจะไต้รับการอภัยบาป มีสันติสุขกับสวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็พร้อมที่จะ มี,ชีวิตต่อไปหรือแม้’ต้องตายก็ตามก็สุดแท้แต่พระทัยของพระเจ้า {MH 74.1}MHTh 69.2

    เขาจะรอช้าให้เสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว เพราะเนี้อหนังอันเหี่ยวแห้ง ของเขาเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังจะตาย เขาจึงขอร้องมิตรสหายให้ ยกร่างพร้อมที่นอนไปหาพระเยซู คนเหล่านั้นต่างยินดีอาสา แต่ฝูงชน มารวมกลุ่มแออัดกันอยู่ภายในและรอบบริเวณบานที่พระผู้ช่วยให้รอด ประทับอยู่ คนง่อยและมิตรสหายจึงไม่อาจเข้าไปถึงพระองค์หรือแม้แต่ จะเข้าไปใกล้พอที่จะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ พระเยซูกำลังเทศนา สั่งสอนอยู่ในบ้านของเปโตร ตามธรรมเนียมพวกสาวกของพระองค์จะนั่ง ใกล้ชิดรอบพระองค์และ “มีพวกฟาริสีและพวกบาเรียนนั่งอยู่ด้วย เป็นผู้ ที่ มาจากทุกหมู่บ้านในแคว้นกาลิลี แคว้นยูเดียและจากกรุงเยรูซาเล็ม” ลูกา 5:17 หลายคนในพวกเหล่านี้เป็นคนสอดแนม เพื่อจะหาเหตุฟ้อง พระเยซู ในหมู่ชนที่มารวมตัวกันนี้มิคนมากมายหลากหลายปะปนกันมา มิทั้งพวกที่มิใจร้อนรน พวกที่มิความเคารพยำเกรง พวกที่อยากรู้อยาก เห็นและพวกที่ไม่เชื่อ มิคนชาติต่างๆ และหมู่ชนทุกชนชั้นรวมกันอยู่ที่นั่น “ฤทธิ้เดขของพระเป็นเจ้าก็อยู่ในพระองค์ เพื่อจะรักษาเขาให้หายโรค” ลูกา 5:17 พระวิญญาณแห่งชีวิตสถิตอยู่ท่ามกลางพวกที่มาร่วมชุมนุม กันแต่พวกฟาริสีและพวกบาเรียนมองไม่เห็นว่าพระเป็นเจ้าสถิตอยู่ด้วย พวกเขาต่างไม่รู้สึกว่าตนเองต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นการรักษา จึงมิได้มีไว้เพื่อเขา “ พระองค์ทรงโปรดให้คนอดอยากอิมด้วยสิ่งดีและ ทรงกระทำให้คนมั่งมีไปมือเปล่า” ลูกา 1:53 {MH 74.2}MHTh 69.3

    ผู้แบกหามคนง่อยไต้พยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะฝ่าฝูงชนเข้าไป แต่กใม่ประสบผล คนป่วยเหลียวมองไปรอบตัวด้วยความทุกข์ใ,จจนพูดไม่ ออก เขาจะทิ้งความหวังไปได้อย่างไร ในเมื่อความช่วยเหลือที่เขาปรารถนา นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาจึงได้แนะนำมีตรสหายให้หามเขาขึ้นไปบนหลังคา บ้านและรื้อหลังคาออกเป็นช่อง จากนั้นก็หย่อนเขาลงไปที่พระบาทของ พระเยซู {MH 75.1}MHTh 70.1

    การเทศนาสั่งสอนหยุดชะงักลง พระผู้ช่วยให้รอดทอดพระเนตร ใบหน้าที่เศร้าหมองและทรงเห็นสายตาวิงวอนที่เพ่งมองพระองค์ ทรง เข้าใจถึงความปรารถนาของจิตวิญญาณที่ต้องแบกภาระอันหนัก พระ- คริสต์นั่นเอง ที่ทรงเป็นผู้ท่าให้ใจมโนธรรมของเขาสำนึกในความผิดบาป ใน เวลาตั้งแต่เขายังอยู่ที่บ้าน เมื่อกลับใจใหม่จากบาปและเชื่อในฤทธิ์อำนาจ ของพระเยซูที่จะท่าให้เขาหายจากโรคได้แล้ว พระคุณของพระผู้ช่วยให้ รอดอำนวยพรแก่จิตใจของเขาให้ได้รับความสุข พระเยซูทอดพระเนตร เห็นประกายแห่งความเชื่อแรกที่เพิ่มขึ้นจนเป็นการรู้สำนึกว่าพระองค์ทรง เป็นผู้ช่วยเพียงพระองค์เดียวของคนบาป และทรงเห็นว่าความเชื่อ ของเขาเติบใหญ่จนมีกำลังที่เข้มแข็งจากความพากเพียรพยายามที่จะเข้า มาเฝัาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์พระคริสต์เองผู้นำคนป่วยที่ทนทุกข์ ทรมานให้เข้าไปหาพระองค์ บัดนี้ พระผู้ช่วยให้รอดตรัสด้วยถ้อยคำอัน ไพเราะดุจเสียงดนตรีแก่ผู้ที่ไดยินว่า“ลูกเอ๋ย จงขื่นใจเถิด บาปของเจ้าได้ รับอภัยแล้ว” มัทธิว 9:2 {MH 75.2} ภาระหนักแห่งความผิดบาปได้หลุดพันออกไปจากจิตวิญญาณของ ชายที่ป่วยอยู่นั้น เขาไม่มีความสงสัยใดๆ พระดำรัสของพระคริสฅ์ได้ เผยให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่ทรงอ่านจิตใจของเขาได้ ใครเล่า จะปฏิเสธฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่ทรงโปรดยกบาปได้ ความหวังเกิดขึ้น แทนความสิ้นหวังและความปีติยินดีเข้ามาแทนที่ความทุกข์ใจ ความ เจ็บปวดด้านร่างกายหายไป ทั่วร่างกายของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ เขาไม่ได้ร้องขอสิ่งใดอีก ได้แต่นอนสงบนิ่ง รู้สึกเป็นสุขอย่างเหลือล้น เกินกว่าจะกล่าวถ้อยคำใดๆ {MH 76.1}MHTh 70.2

    คนเป็นอันมากได้เฝัามองดูเหตุการณ์อันแปลกประหลาดทุกอิริ- ยาบถด้วยความระทึกใจ หลายคนรู้สึกว่าพระดำรัสของพระคริสต์เป็น คำเชิญสำหรับพวกเขาด้วย บาปมิได้ทำให้เขาเจ็บป่วยในฝ่ายจิตวิญญาณ ดอกหรือ พวกเขาไม่มีความกระหายที่จะปลดเปลื้องจากภาระนี้ด้วยหรือ {MH 76.2}MHTh 71.1

    แต่พวกฟาริสีกลัวว่าจะสูญเสียอิทธิพลที่มีต่อประชาชน จึงคิดในใจ ว่า “ทำไมคนนี้พูดเข่นนี้หมิ่นประมาทพระเจ้านี่ ใครจะยกความผิดบาป ได้เว้นแต่พระเจ้าเท่านั้น” มาระโก 2:7 {MH 76.3}MHTh 71.2

    พระเยซูทรงจ้องมองดูพวกฟาริสี แล้วพวกเขาไม่กล้าสบสายตา และถอยห่างออกมาด้วยความหวาดกลัว พระเยซูทรงทราบถึงความคิด ภายในจิตใจของพวกเขา จึงตรัสว่า “เหตุใดท่านทั้งหลายจึงคิดในใจอย่าง นี้เล่า ที่จะว่ากับคนง่อยว่าบาปทั้งปวงของเจ้าได้‘รับอภัยแล้วและจะว่าจง ยกแคร่เดินไปเถิดนั้น ข้างไหนจะง่ายกว่ากัน แต่เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้ ว่า บุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะโปรดยกความผิดบาปได้’ พระองค์ จึงตรัสสั่งคนง่อยว่า “เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น ยกแคร่ไปบานของเจ้าเถิด” ม่ทธิว 9:4-6 {MH 76.4}MHTh 71.3

    คนง่อยที่ถูกหามบนแคร่มาหาพระเยซูนั้นลุกขึ้นยินด้วยความ กระฉับกระเฉงและมีกำลังวังชาเหมือนกับคนหนุ่ม ทันใดนั้นเขา “ ยก แคร่ของตนเดินออกไปต่อหน้าคนทั้งปวง คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนักจึง สรรเสริญพระเจ้าว่า เราไม่เคยเห็นเข่นนี้เลย” มาระโก2:12 {MH 77.1}MHTh 71.4

    ร่างกายที่เสื่อมโทรมจะกลับมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้นมาใหม่ อีกครั้งนั้น จะต้องอาศัยฤทธิ์อำนาจซึ่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฤทธิ์อำนาจของ พระเจ้าในการสร้างสรรพสิ่งทั้งปวงขึ้นมา พระสุรเสียงที่ตรัสประทานชีวิต ให้แก่ชายง่อยผู้กำลังจะตายเป็นพระสุรเสียงเดียวกันกับที่ตรัสเมื่อทรงสร้าง มนุษย์ขึ้นจากผงคลีดิน และฤทธิ์อำนาจที่ประทานชีวิตให้แก่ร่างกาย เป็น ฤทธิ์อำนาจเดียวกันที่ไต้เปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ พระองค์ผู้ตรัสแล้ว “มัน ก็เกิดขึ้นมา พระองค์ทรงบัญชามันก็ออกมา” สดุดี 33: 9 ในขณะที่ทรง สร้างโลกนั้น เป็นผู้ตรัสประทานชีวิตให้แก่จิตวิญญาณที่ตายแล้วในการ ล่วงละเมิดและบาป การรักษาร่างกายให้หายจากความเจ็บป่วยนั้น เป็น หลักฐานที่แสดงถึงฤทธิ์อำนาจที่เปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ พระคริสต์ทรง มีพระดำรัสสั่งให้ชายง่อยลุกขึ้นและเดินไปนั้นก็เพื่อ“ท่านทั้งหลายจะได้ รัูว่า บุตรมนษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะโปรดยกความผิดบาปได*” {MH 77.2}MHTh 72.1

    ชายง่อยไต้รับการรักษาโรคของทั้งจิตวิญญาณและทางกายจาก พระคริสต์ เขาจำเป็นจะต้องไต้รับการชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ก่อนที่จะ ซาบซึ้งถึงคุณค่าของร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงไต้ ก่อนที่จะรักษาโรคถัย ไข้เจ็บทางฝ่ายร่างกายให้หายนั้น พระคริสต์ต้องปลดเปลื้องความทุกข์ที่ อยู่ภายในจิตใจและจะทรงชำระจิตวิญญาณจากความผิดบาปให้สะอาด บริสุทธึ๋เสียก่อน เราไม่ควรมองข้ามบทเรียนนี๋ไป ทุกวันนี้มีผู้คนมากมาย ที่กำลังทุกข์ทรมานต้วยโรคกัยไข้เจ็บเหมีอนชายง่อยคนนี้ คนเหล่านี้ต่าง ปรารถนาที่จะไต้ยินข่าวประเสริฐที่กล่าวว่า “บาปทั้งปวงของเจ้าได้รับ อภัยแล้ว” ภาระหนักแห่งบาปและความอยากไต้อยากมีที่ไม่รู้จักพอ รวม ทั้งความกลัดกลุ้มวุ่นวายใจ ล้วนเป็นบ่อเกิดของโรคกัยไข้เจ็บของเขาเอง เขาไม่อาจจะไต้รับการบรรเทาจนกว่าจะเข้าไปหาพระองค์ผู้ทรงเป็นแพทย์ ผู้รักษาจิตวิญญาณ สันติสุขที่มีเพียงพระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถ ประทานให้ จะช่วยให้จิตใจมีความเข้มแข็ง และท่าให้ร่างกายมีสุขภาพ ที่สมบูรณ์ไต้ {MH 77.3}MHTh 72.2

    การรักษาชายง่อยให้หายจากโรคยังผลให้เกิดแก่ประชาชน ประหนึ่ง ว่าสวรรค์ไต้เปิดออกและเผยให้เห็นสง่าราศีของโลกที่สุขสมบูรณ์กว่า ใน ขณะที่ชายง่อยที่หายจากโรคแล้วเดินฝ่าฝูงชน เขาสรรเสริญพระเจ้าทุก ย่างก้าวและแบกภาระที่เบาอย่างขนนกของเขากลับไป ประชาชนหลีกทาง ให้เขาและจ้องมองดูชายคนนั้นด้วยสีหน้าคร้ามกลัว ต่างกระซิบเบาๆ ต่อ กันว่า “วันนี้เราได้เห็นสิ่งแปลกประหลาด” ลูกา 5:26 {MH 78.1}MHTh 73.1

    ภายในบ้านของชายง่อยต่างมีความปีติยินดีเป็นลันพ้น เมื่อได้เห็น เขาแบกที่นอนกลับมาได้อย่างสบาย ทั้งที่เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ เขาเพิ่ง จะถูกหามออกไปจากบ้านอย่างทุลักทุเล พวกเขาพากันไปห้อมล้อมชาย ที่หายป่วยด้วยนํ้าตาแห่งความยินดี และไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เพราะ เขากลายเป็นชายฉกรรจ์ที่มีร่างกายกำยำลาสัน ลำแขนที่เมื่อก่อนเคยฝ่อ ลีบเหมือนตายแล้วกลับสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างใจคิด เนี้อหนังที่ เมื่อก่อนเคยเหี่ยวย่นและดำคลํ้านั้น บ้ดนี้กลับสดใสและเปล่งปลั่งมืเลีอด ฝาด เขาก้าวเดินได้อย่างมั่นคง คล่องตัวอย่างเต็มกำลัง ความปีติยินดีและ ความหวังฉายแววอยู่ทุกอณูบนใบหน้าของเขา แสดงออกถึงความบริสุทธิ้ และสันติสุขซึ่งเข้าแทนที่รอยแผลแห่งความผิดบาปและความทุกข์ทรมาน เสียงโมทนาพระคุณพระเจ้าด้วยความเบิกบานใจด้งขึ้นจากบ้านหลังนั้น และพระเจ้าทรงรับพระสิริโดยพระบุตรของพระองค์ พระองค์ผู้ทรงนำ ความหวังกลับคืนมาให้แก่ผู้ที่สิ้นหวังและนำพละกำลังมาสู่คนที่เจ็บป่วย ชายผู้นี้และครอบครัวของเขาพร้อมแล้วที่จะสละชีวิตเพื่อพระเยซู ไม่มี ความสงสัยใดๆ ที่จะทำให้ความเชื่อของเขามืดมัวอีกต่อไป ไม่มีทั้งความ ไม่เชื่อใด ๆ ที่จะมาทำลายความภักดีที่มีต่อพระองค์ผู้ทรงโปรดประทาน แสงสว่างมาสู่บ้านที่มืดมนหลังนี้อีกMHTh 73.2

    “จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
    และทั้งสิ้นที่อยู่ภายในข้า
    จงถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธึ๋ของพระองค์
    จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์
    ผู้ทรงอภัยบาปผิดทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน
    ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านมาจากปากแดนผู้ตาย...
    วัยหนุ่มของท่านจึงกลับคืนมาใหม่อย่างวัยนกอินทรี
    พระเจ้าทรงประกอบการแก้แทน
    และการยุติธรรมให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกปีบบังคับ...
    พระองค์มีได้ทรงกระทำต่อเราตามเรื่องบาปของเรา
    หรือทรงสนองตามบาปผิดของเรา...
    บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด
    พระเจ้าทรงสงสารบรรดาคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น
    เพราะพระองค์ทรงทราบโครงร่างของเรา
    พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี’”
    MHTh 73.3

    สดุดี 103:1-14 {MH 79.1}

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents