Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents
บหัศจรรย์แห่อการรักษา - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    แหล่งกี่มาของการรักษา

    ในการอัศจรรย์ที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงกระท่านั้น ได้เปิดเผยให้เห็น ถึงฤทธิ์อำนาจที่พระองค์ทรงปฏิบัติอย่เสมอเพื่อประโยชน์ของมนษย์!น การที่ทรงช่วยเหลือและรักษาเขาให้หายจากโรค โดยอาศัยวิธีการของ ธรรมชาติ พระเจ้าทรงประกอบกิจอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน ในทุกๆ ชั่วโมง และทุกเสี้ยวเวลานาที เพื่อช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ เพื่อเสริมสร้างกำลังและ ฟื้นฟูสุขภาพของเรา เมื่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายได้รับบาดเจ็บ กระบวนการรักษาจะเกิดขึ้นในทันที วิธีการตามธรรมชาติจะเริ่มการบำบัด รักษาให้กลับเป็นปกติ แต่อำนาจ ในการบำบัดรักษาโดยวิธีการเหล่านี้นั้น เป็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ฤทธิ์อำนาจทั้งหมดที่ใช้ล้วนมาจากพระองค์ เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดได้หายจากโรค นั่นเป็นเพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ฟื้นฟูเขา ให้กลับดีดังเติม {MH 1 1 2.1} ความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมานและความตายเป็นกิจการของ อำนาจที่เป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า ซาตานเป็นผู้ทำลาย แต่พระเจ้าทรงเป็น ผัูฟื้นฟู {MH 1 1 3.1}MHTh 107.2

    พระดำรัสที่พระเจ้าตรัสแก่ชนชาติอิสราเอลนั้นยังคงเป็นความจริง ในวันนี้ สำหรับผู้ที่ไต้ฟื้นคืนสู่สุขภาพทางร่างกายหรือสุขภาพทางจิต วิญญาณว่า “เราคือพระเจ้าแพทย์ของเจ้า” อพยพ 1 5:26 {MH 1 1 3.2} MHTh 108.1

    พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อบรรดามนุษย์ทุกคนนั้นได้แสดงออก ไว่ในถ้อยคำที่ว่า “ท่านที่รก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านปีพลานามัย สมบูรณ์และเจริญสุขทุกประการอย่างจิตวิญญาณของท่านจำเริญอยู่นั้น’ 3 ยอห์น 2 {MH 113.3}MHTh 108.2

    พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ “ทรงอภัยบาปผิดทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษา โรคทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านมาจากปากแดนผู้ตาย ผู้ทรงสวม ความรักมั่นคงและพระกรุณาให้ท่าน” สดุดี 1 03:3, 4 {MH 1 1 3.4} เมื่อพระคริสต์ทรงรักษาโรค พระองค์ทรงตักเตือนหลายคนที่เจ็บ ป่วยทรมานว่า “อย่าทำบาปอีก ปีฉะนั้นเหตุร้ายกว่านั้นจะเกิดกับเจ้า’ ยอห์น 5:14ด้วยประการฉะนี้แหละ พระองค์ใต้ทรงสั่งสอนว่าเขาเองได้ เป็นผู้ที่นำโรคภัยมาสู่ตนเองด้วยการล่วงละเมิดธรรมบญญ้ติของพระเจ้า และสุขภาพที่ดีจะถนอมรักษาไว่ไดโดยการเชื่อฟังเท่านั้น {MH 113.5} แพทย์ควรสอนคนไข้ของเขาว่าเขาจะต้องร่วมมือกับพระเจ้าในการ ฟื้นฟูสุขภาพ แพทย์จะต้องตระหนักให้มากขึ้นอยู่อย่างเสมอถึงความจริง ที่ว่าโรคภัยไข้เจ็บเป็นผลอันสืบเนื่องมาจากความผิดบาป เขาทราบดีว่า กฎแห่งธรรมชาติเป็นสิ่งที่แน่นอนเช่นเดียวกับคำสั่งสอนในพระบญญ้ติ สืบประการซึ่งเป็นของพระเจ้า และด้วยการเชื่อฟังต่อพระบญญัติเท่านั้น จึงจะท่าให้ร่างกายกลับมามืสุขภาพที่สมบูรณ์หรือถนอมรักษาสุขภาพไว้ ได้ เขาเห็นผู้ที่ประสบความทุกข์ทรมานมากมายเป็นผลมาจากการกระทำ ในสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งคนเหล่านี้จะกลับมามีสุขภาพที่สมบูรณ์ ไต้อีกครั้งก็ต่อเมื่อเขาทั้งหลายไต้ปฏิบ้ติในสิ่งที่สามารถนVIปสู่การฟินฟู สุขภาพของตนเอง เขาจำเป็นจะต้องได้รับการสั่งสอนว่าการกระทำทุก ๆ อย่างที่ทำลายกำลังของร่างกาย จิตใจหรือจิตวิญญาณนั้นถือว่าเป็นความ ผิดบาป และสุขภาพร่างกายจะแข็งแรงได้ก็โดยอาศัยการเชื่อฟังและปฏิบ้ติ ตามบทปัญญัติที่พระเจ้าไต้ทรงจัดตั้งไว้เพื่อประโยชน์แก่มวลมนุษย์ชาติ {MH 113.6}MHTh 108.3

    เมื่อแพทย์เห็นผู้ป่วยทนทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจาก การกินและการดื่มที่ไม่เหมาะสมหรือมีนิสัยที่ผิดๆ อย่างอื่น แต่กระนั้น กลับเพิกเฉยไม่บอกให้เขาได้ทราบถึงสิ่งนี้ นั่นก็เท่ากับว่าแพทย์กำลังทำ อันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พวกขี้เหล้าเมายา คนวิกลจริต และคนที่ ใช้ซีวิตจมอยู่กับเรื่องไร้ศีลธรรม คนเหล่านี้น่าจะดลใจให้แพทย์ได้บอก กล่าวแก่เขาทั้งหลายอย่างแจ่มชัดลงไปว่าความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลมาจากความผิดบาป คนทั้งหลายที่เข้าใจถึงหลักการในการดำเนิน ชีวิตควรจะมีความพยายามอย่างจริงจังที่จะต่อสู้กับสาเหตุของโรคภัย แพทย์จะยังนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อเห็นความเจ็บป่วยและได้ลงมือ ตรากตรำช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องมา แล้ว เขาจะยังคงได้รับการยกย่องว่ามีใจเมตตาปรานีอีกไหมหากเขายัง ไม่ยอมสั่งสอนให้ผู้ป่วยรู้จักยึดความพอควรอย่างเคร่งครัดซึ่งเป็นวิธีที่ รักษาโรคภัยของผู้ป่วยเหล่านั้นเองให้หายได้ {MH 114.1}MHTh 109.1

    ขอให้เราเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า การปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า นั้นเป็นหนทางที่น่าไปลู่ชีวิต พระเจ้าทรงเป็นผู้ตั้งกฎแห่งธรรมชาติขึ้น แต่ กฎของพระองค์มิไต้บีบปังคับให้เราจะต้องปฏิบัติตามอย่างไร้เหตุผล ทุกๆ คำว่า “อย่า” ไม่ว่าจะเป็นบทปัญญัติที่เกี่ยวกับด้านร่างกายหรือด้าน ศีลธรรมล้วนบ่งบอกถึงพระสัญญา หากเราปฏิบัติตาม พระพรก็จะติดตาม ไปในทุกย่างก้าวของเรา พระเจ้าไม่ทรงบงคับเราต้องกระทำในสิ่งที่ถูก แต่ พระองค์ทรงเลือกที่จะช่วยเราให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายและน่าพาเราไป ในทางที่ดีงาม {MH 1 1 4.2}MHTh 109.2

    ขอให้เราพิจารณาใส่ใจถึงบทบัญญัติต่าง ๆ ที่น่ามาสั่งสอนแก่ชนชาติ อิสราเอล พระเจ้าประทานคำแนะน่าสั่งสอนที่แน่นอนให้แก่พวกเขาเกี่ยว กับกิจวัตรในการดำเนินชีวิต พระองค์ทรงสำแดงให้พวกเขาได้ทราบถึง บทบัญญตที่เกี่ยวข้องกับความผาสุกทั้งต่อร่างกายและต่อจิตวิญญาณและ ด้วยเงื่อนไขของการเชื่อฟัง พระองค์ย่อมจะทรงรับรองแก่พวกเขาว่า “และ พระเจ้าจะทรงยกความเจ็บไข้ไปเสียจากพวกท่าน” เฉลยธรรมบัญณู้ติ 7:15 “จงใส่ใจในถ้อยคำซึ่งข้าพเจ้ากล่าวแก’ท่านในวนนี้” “เพราะว่าคำ เหล่านั้นเป็นชีวิตแก่คนทั้งปวงที่พบและเป็นสุขภาพแก่ทุกส่วนในฝาย เนื้อหนังของเขา” เฉลยธรรมบัญณู้ติ 32:46 สุภาษิต 4:22 (ฉปับแปล เดิม) {MH 1 1 4.3}MHTh 110.1

    พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราก้าวไปถึงมาตรฐานแห่งความบริบูรณ์ ดีเลิศซึ่งเราจะกระทำไดโดยอาศัยของประทานจากพระคริสต์ พระองค์ทรง เรียกเราให้ตัดสินเลือกในด้านที่ถูกต้อง ให้เรามีความสัมพันธ์กับชาว สวรรค์ และรับหลักการที่จะช่วยให้เราไต้กสับคืนสู่ความบริสุทธิ์ชอบธรรม ตามพระฉายของพระเจ้า ในพระวจนะของพระองค์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ และในหนังสือเล่มใหญ่ของธรรมชาติ พระองค์ใต้ทรงเปิดเผยถึงหลักการ แห่งการดำเนินชีวิต เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรับความรูในหลักการเหล่า นี้ และร่วมมือกับพระองค์โดยการเชื่อฟัง ในการฟืนฟูสุขภาพของทั้งทาง ร่างกายและทางจิตวิญญาณ {MH 114.4}MHTh 110.2

    มวลมนุษย์จำเป็นต้องเรียนรู้ว่าพระพรแห่งการเชื่อฟังที่ครบถ้วน บริบูรณ์เป็นของพวกเขาไต้ โดยการที่พวกเขายอมรับในพระคุณของพระ- คริสต์เท่านั้น พระคุณของพระคริสต์นี้แหละที่ประทานกำลังให้มนุษย์ปฏิบัติ ตามธรรมบัญญัตของพระเจ้าไต้ พระคุณนี้แหละที่ทำให้เขาสลัดตนเองให้ หลุดพันจากพันธนาการของนิสัยอันชั่วร้ายไต้ สิ่งนี้จึงเป็นฤทธิ์อำนาจเดียว เท่านั้นที่สามารถท่าและคอยประคองให้เขาเดินไปในหนทางแห่งความ ชอบธรรมได้อย่างมั่นคง {MH 115.1}MHTh 110.3

    เมื่อมนุษย์ยอมรับในความบริสุทธิ์และฤทธิ์อำนาจของข่าวประเสริฐ เขาก็จะได้รับการรักษาโรคกัยอันมืลกเหตุมาจากความผิดบาป ดวงอาทิตย์ แห่งความชอบธรรมจะขึ้นจากขอบฟ้า ซึ่งมี “ปีกรักษาโรคภัยได้,, มาลาคี 4:2 สิ่งต่างๆ ที่โลกนี้ให้แก่เราย่อมมิอาจที่จะเยียวยารักษาความ ท้อแท้สิ้นหวัง หรือมอบสันติสุขให้แก่จิตใจ หรือช่วยปลดเปลื้องความวิตก กังวลใจ หรือกำจัดโรคภัยไข้เจ็บให้หมดไปได้ ชื่อเสียง อัจฉริยภาพ และ ตะลันห์ความสามารถล้วนแล้วแต่ไร้ซึ่งอำนาจที่จะทำให้จิตใจที่เศร้าหมอง ได้กลับมีความเบิกบาน หรือฟื้นฟูชีวิตที่สูญเปล่า ชีวิตของพระเจ้าที่สถิต อยู่ในจิตวิญญาณของเราเป็นความหวังเดียวของมนุ,ษย์ {MH 115.2}MHTh 110.4

    ความรักของพระคริสต์ที่แผ่ซ่านอยู่ในทุก ๆ ส่วนของตัวเราเป็นฤทธิ์ อำนาจที่เสริมกำลัง อวัยวะที่ส่าค้ญทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นสมอง หัวใจ และ เส้นประสาทจะสัมผัสได้ถึงการเยียวยารักษา โดยอาศัยความรักของพระ- คริสต์ ร่างกายจะได้รับการกระตุ้นให้สามารถปฏิบ้ติงานได้ด้วยพละกำลัง ในร ะดับสูงสุด ความรักนั้นจะ ช่วยปลดเปลื้องจิตวิญญาณให้หลุดพ้นจาก ความผิดบาปและความทุกข์โศก พ้นจากความกลัดกลุ้มและความวิตก กังวลที่คอยบั่นทอนกำลังกายกำลังใจของมนุษย์ ความรักของพระคริสต์ จะมาพร้อมกับสันติสุขและความสงบของจิตใจ ความรักจะปลูกฝังความ ชื่นชมยินดีลงไปในจิตวิญญาณซึ่งจะไม่มีสิ่งใดในโลกมาทำลายลงได้ เป็น ความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ประทานสุขภาพอันสุขสมบูรณ์ และบำรุงหล่อเลี้ยงชีวิต {MH 115.3}MHTh 111.1

    พระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดของเราที่ว่า “จงมาหาเรา และเรา จะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” มัทธิว 11:28 เป็นตำรับยาขนาน เอกที่จะรักษาความเจ็บป่วยของร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ ถึงแม้ว่า มนุษย์จะเป็นผู้นำความทุกข์ยากลำบากมาใส่ตัวเพราะการกระทำผิดของ เขาเอง พระองค์ก็ยังทรงเป็นห่วงเขาทั้งหลายด้วยความเมตตาสงสาร ใน พระองค์ คนเหล่านี้จะได้รับการช่วยเหลือ พระองค์จะทรงประกอบกิจยิ่ง ใหญ่ให้กับผู้ที่วางใจในพระองค์ {MH 115.4}MHTh 111.2

    แม้ว่าตลอดทุกยุคทุกสมัย บาปจะได้สลักตรวนผูกมัดมนุษยชาติ ด้วยกำลังอำนาจที่ทวีขึ้น แม้ว่าซาตานจะได้ทอดเงามิดออกปิดบังพระ- วจนะของพระเจ้าไว้โดยการโป้ปดมดเท็จและอุบายเล่ห์เหลี่ยมของมัน ในการตีความหมาย และทำให้มนุษย์เกิดความสงสัยในพระคุณความดี ของพระองค์ แต่ถึงกระนั้น พระคุณและความรักของพระบิดาก็ยังคงเป็น ดุจธาราทิพย์ที่หลั่งไหลมาสู่พื้นพิภพโดยมีขาดสาย หากมนุษย์จะเปิด หน้าต่างแห่งจิตวิญญาณขึ้นสู่สวรรค์ด้วยความซาบซึ้งในของประทานที่ได้ รับพระราชทานมาจากพระเจ้าแล้ว กระแสธารของฤทธิ์อำนาจในการ รักษาก็จะหลั่งไหลพรั่งพรูมาสู่มวลมนุ,ษย์ {MH 116.1}MHTh 112.1

    แพทย์ผู้ปรารถนาจะได้เป็นผู้ร่วมงานกับพระคริสต์ที่พระองค์ทรง พอพระทัยนั้น จะพยายามปรับปรุงตนเองให้เป็นผู้ที่มีสมรรถภาพในการ งานทุกๆ ด้านของตน เขาจะศึกษาด้วยความขยันหมั่นเพียรเพื่อจะได้มี คุณสมบัติอันเหมาะสมกับความรับผิดชอบในอาชีพของเขา และจะ พยายามก้าวขึ้นสู่มาตรฐานที่สูงยิ่งขึ้นอยู่เสมอ แสวงหาเพื่อเพิ่มพูนความ รูให้มากขึ้น ให้มีทักษะความชำนาญที่ดียิ่งขึ้นและมีความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ยิ่งกว่าเดิม แพทย์ทุกคนควรจะตระหนักว่าผู้ที่ทำงานโดยขาดทักษะความ สามารถและไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการทำงานจะไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อ ผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิบ้ติต่อแพทย์ผู้ร่วมอาชีพอย่างไม่ยุติธรรม แพทย์ที่พอใจกับมาตรฐานของทักษะความสามารถและความรูในระด้บด่ำ ไม่เพียงแต่จะดูแคลนอาชีพแพทย์เท่านั้น แต่ยังมิได้ถวายพระเกียรติแด่ พระคริสต์ในฐานะที่พระองค์ทรงดำรงเป็นนายแพทย์ใหญ่อีกด้วย {MH 116.2}MHTh 112.2

    ผู้ที่รู้สึกว่าตนนั้นมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะท่างานด้านการแพทย์ ก็ควรจะเลือกงานในสาขาอาชีพอื่น ส่วนผู้ที่มีความเหมาะสมในการที่จะ คอยเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วย แต่มีขีดจำกัดในด้านการศึกษาและคุณสมบัติใน ด้านการแพทย์ ก็ควรที่จะเลือกท่างานในส่วนอื่นๆ ที่รองลงมา ด้วยการ ปรนนิบัติรับใช้อย่างซื่อสัตย์ใ,นฐานะของพยาบาล โดยการรับใช้ด้วยความ พากเพียรภายใต้การดูแลจากแพทย์ที่มีความชำนาญ ตลอดเวลาพวกเขา ย่อมจะได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น และโดยการปรับปรุงและพัฒนาในทุกๆ โอกาส หรือช่องทางที่จะได้รับความรูให้มากขึ้น ที่สุดแล้ว พวกเขาก็จะมีคุณสมบัติ เหมาะสมอย่างครบถ้วนในงานของแพทย์ได้ จงให้แพทย์ผู้มีอาวุโสน้อย กว่า “ทำงานร่วมกับพระคริสต์ [พระองค์ทรงเป็นแพทย์ใหญ่]...อย่าสักแต่ รับพระคุณของพระเจ้าเท่านั้น...เรามีไดิให้ผูใดมีเหตุสะดุดในสิ่งหนึ่งสิ่งใด เลย เพื่อมิไหัการที่เรารับใซัปิภูิบัฅิ [ผู้ป่วย] นั้นเปีนที่เขาจะฅิเตยนได้แต่ เราผู้เป็นคนรับใซัของพระเจ้า ได้กระทำตัวไหัเป็นทื่ชอบไนการทั้งปวง” 2 โครินธ์ ธ: 1 -4 {MH 116 3}MHTh 112.3

    พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะให้เราได้ก้าวขึ้นสู่มาตรฐานที่สูงส่งยิ่งขึ้น แพทย์ ผู้ทำงานพันธกิจในด้านการแพทย์อย่างแท้จริงย่อมที่จะพัฒนาตนเองเพื่อ จะได้เป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น แพทย์คริสเตียนที่มีความ สามารถพิเศษและมีความเป็นเลิศในวิชาชีพ ควรจะได้รับการคัดลิอกและ ส่งเสริมให้ได้มีส่วนร่วมในงานรับใช้พระเจ้าในตำแหน่งที่จะให้การศึกษา และฝึกฝนอบรมคนอื่นๆ ให้มาเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาด้านการแพทย์ใต้ {MH 11 7.1}MHTh 113.1

    แพทย์ควรจะรับเอาแสงสว่างแห่งพระวจนะของพระเจ้าไวัในจิต วิญญาณของเขา เขาควรจะเติบโตขึ้นในพระคุณของพระเจ้าอยู่เสมอ ส่าหรับเขาแล้ว ศาสนาจะมิได้เป็นแต่เพียงสิ่งที่ช่วยส่งเสริมเขาให้มีอิทธิพล ท่ามกลางคนอื่นๆ ที่เขาคบหาสมาคมด้วย แต่จะต้องเป็นอิทธิพลที่เหนือ ผัูอื่น เขาจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยเป้าหมายที่บริลุทธิ์เเละสูงส่ง อันเป็น เป้าหมายที่มีพลังอำนาจเพราะได้รับจากพระองค์ผู้ประทานชีวิตของพระองค์ เพื่อให้เรามีอำนาจที่จะเอาชนะเหนือความชั่วร้ายได้ {MH 117.2}MHTh 113.2

    หากแพทย์พยายามปฏิบัติงานให้บังเกิดผลด้วยความซื่อสัตย์และ ความขยันหมั่นเพียรในตำแหน่งหน้าที่ของเขา หากเขาได้ยอมมอบถวาย ตนเองเพื่อที่จะปรนนิบัติรับใช้พระคริสต์ และใช้เวลาในการพินิจพิจารณา ถึงจิตใจของตนเอง เขาก็จะเข้าใจรู้ซึ้งถึงความลํ้าลึกของการทรงเรียกใน งานอันคักดิ์สิทธิ์ของเขา เขาจะฝึกฝนและอบรมตนเองจนทุกคนที่อยู่โดย รอบอิทธิพลของเขาจะเห็นถึงความเป็นเลิศของการศึกษาและสติปัญญาที่ ได้รับจากการได้ติดต่อสัมพันธ์กับพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระปัญญาและ ฤทธิ์อำนาจ {MH 117.3}MHTh 113.3

    ไม่มีงานใดที่จำเป็นจะต้องมีสัมพันธภาพใกลชิดสนิทสนมกับพระเจ้า มากยิ่งไปกว่างานของผู้ที่เป็นแพทย์ ผู้ที่จะปฏิบัฅิงานในหน้าที่ของแพทย์ ได้อย่างถูกต้องจำเป็นต้องดำเนินซีวิตตามแบบอย่างของคริสเตียนใน ทุกๆ วันและในทุกๆ ชั่วโมง ชีวิตของผู้ป่วยอยู่ในมือของแพทย์การ ตรวจวินิจฉัยโรคโดยความประมาทหรือขาดความเอาใจใส่เพียงครั้งเดียว หรือการสั่งจ่ายยาที่ผิดเพียงครั้งเดียวในผู้ป่วยที่มือาการหนัก หรือมือที่ทำ การผ่าตัดโดยขาดความชำนาญเพียงครั้งเดียว แม้จะเล็กน้อยเท่ากับปลาย เส้นผม ชีวิตหนึ่งก็อาจลูกสังเวยไปและจิตวิญญาณก็จะไปสู่นิรันดรกาล มันช่างน่าสลดใจเมื่อนึกถึงเรื่องเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่มีความส่าคัญมากที่ แพทย์จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมจากนายแพทย์ผู้ประเสริฐ {MH1 17.4}MHTh 114.1

    พระผู้ช่วยให้รอดทรงเต็มพระทัยที่จะช่วยคนทั้งหลายซึ่งทูลขอต่อ พระองค์ให้ประทานสติปัญญาและความคิดอันปลอดโปร่งแจ่มใสให้แก่ ตนเอง และผู้ใดเล่าที่จะต้องการสติปัญญาและความคิดอันปลอดโปร่ง แจ่มใสมากไปกว่าแพทย์ซึ่งการตัดสินใจมากมายต่างฝากการพึ่งพาไว้ ขอ ให้แพทย์ผู้ที่กำลังพยายามที่จะช่วยชีวิตคนป่วยใหัยืดยาวออกไปจงมอง ไปยังพระคริสต์ด้วยความเชื่อเพื่อพระองค์จะได้ทรงน่าเขาในกิจการทุก ๆ สิ่ง พระผู้ช่วยให้รอดจะประทานไหวพริบและความเชี่ยวชาญในการรับมือ กับกรณีการรักษาที่มืความสลับซับซ้อน {MH 117.5}MHTh 114.2

    พระเจ้าประทานโอกาสอันประเสริฐให้แก่ผู้ที่ตัองคอยดูแลคนเจ็บ ป่วย ในทุกสิ่งที่ต้องทำเพื่อฟินฟูคนเจ็บไขให้หายเป็นปกตินั้น ผู้ดูแลเหล่า นั้นควรจะชี้แจงให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าแพทย์กำลังช่วยเหลือเขาทั้งหลายให้ร่วมมือ กับพระเจ้าในการต่อสู่กับโรคภัย จงชักน่าผู้ป่วยเหล่านั้นให้รู้สึกว่าในทุกๆ วิธีของการรักษาที่สอดคล้องตามบทบญญตของพระเจ้าเขาทั้งหลายย่อม หวังไต้ว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเขาทั้งหลายได้ {MH 118.1}MHTh 114.3

    คนป่วยเจ็บและคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจะมีความเชื่อถือเพิ่ม มากขึ้นในแพทย์ผู้มีความรักและมีความยำเกรงในพระเจ้า พวกเขาจะไว้ วางใจในคำพูดของแพทย์ พวกเขาจะรู้สึกถึงความปลอดภ้ยเมื่อได้อยู่ ต่อหน้าและได้รับการรักษาจากแพทย์นั้น {MH 118.2}MHTh 115.1

    การได้มีประสบการณ์ในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นถือว่าเป็นสิทธิ พิเศษสำหรับแพทย์คริสเตียนที่สามารถจะอธิษฐานทูลเชิญพระองค์ให้ เสด็จมาสถิตอยู่ในห้องของคนป่วย ก่อนที่จะทำการลงมือผ่าตัดที่ค่อนข้าง วิกฤติ ขอให้แพทย์ใต้ทูลขอความช่วยเหลือจากแพทย์ผู้ประเสริฐเสียก่อน ขอให้แพทย์ได็ให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่าพระเจ้าทรงช่วยให้เขาผ่านพ้น วิกฤติการณ์นี้ไปได้อย่างปลอดภ้ย ซึ่งในเวลาที่มีความทุกข์ยากทุกครั้ง พระองค์จะทรงเป็นที่ลี้ภัยที่ไว้ไจได้สำหรับผู้ที่วางใจในพระองค์ แพทย์ที่ ไม่สามารถทำอย่างนี้ได้นั้นทำให้คนไข้รายแล้วรายเล่าต้องเสียชิวิตไป แทนที่จะช่วยให้รอดชีวิตไต้ หากเขาจะได้กล่าวถ้อยคำที่หนุนจิตใจของ ผู้ป่วยให้เกิดความเชื่อในพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงกอปรด้วยพระเมตตาและ ทรงรู้สึกถึงความทุกข์ทรมานของคนป่วยและทูลขออธิษฐานในสิ่งที่จิต วิญญาณต้องการต่อพระองค์ บ่อยครั้งวิกฤตนั้นก็จะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย {MH 118.3}MHTh 115.2

    พระองค์ผู้ทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถอ่านจิตใจของมนุษย์ ทรง ทราบดีว่าผู้ป่วยหลายคนที่ยอมท่าการผ่าตัดภายใต้มือของศัลยแพทย์นั้น เต็มไปด้วยความหวาดกลัวตัวสั่นมากเพียงใด พวกเขาตระหนักดีถึงภัย อันตรายของตนเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความไว้วางใจในฝีมือของแพทย์ มากเท่าใด แต่พวกเขาก็รู้ว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเขาเห็น แพทย์ใต้ก้มศีรษะลงอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า จึงเป็นสิ่ง ที่ช่วยหนุนใจให้เขาได้เกิดความมั่นใจ ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความไว้วางใจได้เปิดจิตใจของผู้ป่วยให้ยอมรับในฤทธิ์อำนาจในการ รักษาของพระเจ้า พละกำลังทั่วตัวตนของเขาจึงได้รับการเสริมและความ มีชีวิตชีวาจึงนำไปสู่ชัยชนะ {MH 118.4}MHTh 115.3

    สำหรับแพทย์แล้ว การสถิตอยู่ด้วยของพระผู้ช่วยให้รอดย่อม ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขามีกำลงที่เข้มแข็งขึ้น บ่อยครั้งที่ความรับผิดชอบ และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นไดในหน้าที่การงานของเขาได้นำความกลัวมาสู่จิตใจ ความกังวลถึงความไม่แน่นอนและความหวาดกลัวอาจจะทำให้มือของเขา พลาดได้ แต่เมื่อได้รับความมั่นใจว่าพระเจ้าผู้ทรงเป็นที่ปรึกษาสถิตอยู่ เคียงข้างเขาเพื่อที่จะคอยชี้น่าและทรงคํ้าจุน ทำให้เขาเถิดความสงบและ เข้มแข็งขึ้นในจิตใจ การสัมผัลของพระคริสต์บนมือของแพทย์ย่อมน่ามา ซึ่งกำลังวังชา ความสงบผ่อนคลาย ความมั่นใจและน่าพลังความสามารถ มาสู่แพทย์ {MH 119.1}MHTh 116.1

    เมื่อคนไข้ได้ผ่านพ้นวิกฤติโดยปลอดกัยและเห็นว่าทุกอย่างได้ ประสบผล ขอให้แพทย์ใดใช้เวลาสักครู่หนึ่งเพื่ออธิษฐานร่วมกับคนไข้ จง กล่าวขอบพระคุณพระเจ้าที่ได้ทรงรักษาชีวิตไว้ เมื่อคนไข้ใต้กล่าวขอบคุณ แพทย์ จงน่าคำสรรเสริญและคำโมทนาพระคุณไปยังพระเจ้า ให้แพทย์ บอกคนไข้ว่าการที่เขารอดชีวิตเพราะเขาไต้รับการตุ้มครองดูแลจาก พระเจ้าผู้ทรงเป็นแพทย์ของเขา {MH 119.2}MHTh 116.2

    แพทย์ที่ปฏิบ้ติไต้เช่นนี้ ย่อมน่าคนไข้ของเขาไปยังพระองค์ผู้ทรง เป็นที่พื่งของชีวิต พระผู้ทรงสามารถช่วยมนุษย์ทุกคนที่มาหาพระองค์!,ห้ รอดไต้จนถึงที่สุด {MH 119.3}MHTh 116.3

    ผู้ที่ทำงานประกาศด้านการแพทย์ควรจะมืความปรารถนาอันลึกซึ้ง ต่อจิตวิญญาณของคนทั้งหลาย พระเจ้าได้ทรงมอบความไว้วางใจอันสูงสุด เท่าที่พระองค์ทรงเคยมอบให้กับมนุษย์แก่แพทย์ซึ่งเทียบเท่ากับที่ทรงมอบ ให้กับอาจารย์สอนศาสนาผู้ประกาศข่าวประเสริฐ ไม่ว่าเขาจะตระหนักถึง หรือไม่ก็ตาม แพทย์ทุกคนต่างได้รับมอบหมายให้ทำการรักษาจิตวิญญาณ ด้วย {MH 119.4}MHTh 116.4

    ในงานของแพทย์ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับโรคกัยไข้เจ็บและความตาย บ่อยครั้งแพทย์กลับมองไม่เห็นถึงความเป็นจริงที่สำคัญของชีวิตในอนาคต ด้วยความพยายามอย่างจริงจังของเขาที่จะบ่าบดรักษาภัยอันตรายทาง ร่างกายทำให้พวกเขาลืมถึงภัยอันตรายทางจิตวิญญาณ คนไข้ที่เขากำลัง ให้การรักษาอยู่นั้นอาจจะต้องสูญเสียชีวิต โอกาสสุดท้ายกำลงจะหลุดมือ ไป จิตวิญญาณดวงนี้แหละที่แพทย์จะต้องพบกันอีกครั้งที่บลลังถ์แห่ง การพิพากษาของพระคริสต์ {MH 119.5}MHTh 116.5

    เรามักจะสูญเสียพระพรอันประเสริฐที่สุดไปจากการที่เราละเลยที่จะ ประกาศพระคำของพระเจ้าในเวลาที่เราควรจะทำ หากเราไม่ไต้เฝัาระวัง ที่จะฉกฉวยโอกาสที่ดีนั้นเอาไว้ โอกาสนั้นก็อาจจะหลุดลอยไป ที่ข้างเตียง ของคนป่วยเราไม่ควรจะพูดถึงหลัักความเชื่อในศาสนาหรือสิ่งที่จะก่อให้ เกิดการโต้แย้งกัน เราควรจะชี้ให้ผู้ที่เจ็บป่วยทรมานนั้นไต้หันไปหาพระองค์ ผู้ทรงเต็มพระทัยที่จะช่วยทุกคนที่มาหาพระองค์ด้วยความเชื่อให้ได้รับ ความรอด จงพยายามช่วยเหลือจิตวิญญาณของผู้ที่กำลังอยู่ระหว่างชีวิต และความตายด้วยความจริงใจและอ่อนโยน {MH 120.1}MHTh 117.1

    แพทย์ที่ทราบว่าพระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวของเขา เพราะตัวเขาเองก็ได้ถูกนำไปยังพระองค์ผู้ทรงเป็นที่ลี้กัย เขาย่อมที่จะเถึง วิธีที่จะปฏิบติต่อจิตวิญญาณที่เป็นทุกข์ สำนึกในความผิดและเจ็บป่วยด้วย ความผิดบาปซึ่งได้หันไปหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาสามารถที่จะ ตอบคำถามที่ว่า “เราต้องทำประการใดจึงจะรอด” เขาสามารถที่จะเล่าเรื่อง ความรักของพระผู้ไถ่ได้ เขาสามารถที่จะพูดได้จากประสบการณ์ถึงฤทธิ์ อำนาจที่สามารถช่วยให้กลับใจใหม่และทำให้มืความเชื่อ ด้วยคำพูดที่ เรียบง่ายและจริงใจ เขาสามารถที่จะทูลขอต่อพระเจ้าถึงความต้องการของ จิตวิญญาณด้วยการอธิษฐานและสามารถที่จะหนุนจิตใจคนป่วยเจ็บให้ทูล ขอและรับเอาซึ่งพระกรุณาธิคุณของพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงมีพระทัย เมตตาสงสาร เมื่อแพทย์ให้การปาบดรักษาเช่นนี้ที่ข้างเตียงของคนไข้และ พยายามกล่าวถ้อยคำที่เอื้ออาทรและปลอบประโลมจิตใจ องค์พระผู้เป็น เจ้าจะทรงกระทำการร่วมกับเขาและโดยอาศัยเขา เมื่อจิตใจของคนที่เจ็บ ป่วยทรมานได้รับการชักนำไปยังพระผู้ช่วยให้รอด สันติสุขของพระคริสต์ ก็จะได้รับการเติมเต็มไวัในจิตใจ และสุขภาพจิตวิญญาณที่ได้ฟื้นคืนกลับ มานี้เองที่พระเจ้าจะใช้เป็นพระหัตถ์ของพระองค์เพื่อช่วยให้สุขภาพทางกาย ของคนป่วยไต้ฟื้นคืนกลับมา {MH 120.2}MHTh 117.2

    ในการดูแลรักษาคนป่วยเจ็บนั้น แพทย์มักจะมีโอกาสที่จะได้ช่วย เหลือมิตรสหายของคนป่วยด้วย ในขณะที่พวกเขาได้เฟัาอยู่ที่ข้างเตียง ผู้ป่วยอยู่นั้น จิตใจของพวกเขาจะอ่อนลงเพราะพวกเขารู้สึกหมดหวังที่จะ ช่วยระงับความเจ็บปวดของผู้ป่วยได้ บ่อยครั้งที่คนเหล่านี้มักจะระบาย ความโศกเศร้าที่ตนเองพยายามปิดบงจากคนอื่นให้แพทย์ทราบ ฉะนั้นจึง เป็นโอกาสของแพทย์ที่จะชี้ให้ผู้ที่มีความทุกข์โศกเหล่านี้ได้เห็นถึงพระองค์ ผู้ทรงเชิญคนทั้งหลายที่เหนื่อยล้าและแบกภาระหนักให้มาหาพระองค์ บ่อย ครั้งแพทย์สามารถที่จะอธิษฐานเผื่อพวกเขาและอธิษฐานร่วมกับพวกเขา ได้โดยการทูลเสนอความต้องการของพวกเขาไปยังแพทย์ผู้ทรงรักษาโรค ทั้งปวงและพระผู้ทรงเล้าโลมจิตใจให้คลายเศร้าได้ {MH 121.1}MHTh 118.1