ความรับผิดชอบของบิดา

สามีและบิดาเป็นหัวหน้าของครอบครัว ภรรยา หวังพึ่งในความรักและความเห็นอกเห็นใจของสามี และ การที่สามีจะช่วยอบรมสั่งสอนลูก ๆ และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูก ต้อง บุตรเป็นของสามีมากเท่า ๆ กับเป็นของภรรยา และ ผู้เป็นบิดามีความสนใจในบุตรมากเท่า ๆ กับภรรยา พวก ลูก ๆ ต้องพึ่งบิดา เพราะบิดาเป็นผู้หาเงินมาเลี้ยงครอบ ครัว และเป็นผู้นำของครอบครัว บิดาจำเป็นต้องพิจารณา ดูให้รอบคอบว่า ครอบครัวของเขาจะต้องติดต่อเกี่ยวข้อง กบคนอื่น ๆ อย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือ เขาจะต้องมี ความรักและความเกรงกลัวพระเจ้า และประพฤติตามคำ สอนของพระองค์ เพื่อจะได้นำบุตรของเขาดำเนินไปตาม ทางที่ถูกMHTH 663.1

บิดาเป็นผู้ออกคำสั่งภายในครอบครัว และเช่น เดียวกับอับราฮาม เขาควรจะประพฤติตามบทบัญญัติของ พระเจ้า พระเจ้าทรงตรัสแก่อับราฮามว่า “ด้วยเรารู้จัก อับราฮามอย่างสนิท ดำริจะให้เขาปกครองลูกหลานครอบ ครัวต่อไป” การปกครองตามแบบอย่างของพระเจ้าจะ ไม่มีสิ่งใดที่ผิดพลาด ผู้เป็นบิดาจะไม่ตามใจบุตรให้ทำสิ่ง ที่ชั่วร้าย เขาจะสอนบุตรให้เป็นคนเข้มแข็ง และให้ประ พฤติแต่สิ่งที่ดีงาม อับราฮามมิใช่แต่เพียงจะสั่งสอนบุตร ในทางที่ถูกเท่านั้น แต่เขายังได้ประพฤติตามบทบัญญัติ ของพระยะโฮวา พระเจ้าทรงวางข้อบังคับไว้สำหรับนำทาง เรา เด็ก ๆ ไม่ควรจะถูกปล่อยให้หลงไปจากทางที่ปลอด ภัยซึ่งพระเจ้าทรงชี้แจงไว้ในพระคำของพระองค์ เขาไม่ ควรจะดำเนินไปในทางที่มีอันตรายเปิดอยู่ทุก ๆ ด้าน โดย การหมั่นอธิษฐานอยู่เสมอ บิดามารดาสามารถจะชักจูง บุตรให้ประพฤติสิ่งที่ดีที่ถูกได้MHTH 663.2

บิดาควรจะสั่งสอนคนที่ อยู่ในครอบครัวให้เป็นคน ดี มีความซื่อสัตย์, มีกำลังใจเข้มแข็ง, มีความอดทน,และความขยันหมั่นเพียร และให้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ บิดา ปรารถนาจะให้บุตรทำอย่างไร เขาก็ต้องประพฤติอย่าง นั้น และวางแบบอย่างให้บุตรเห็นในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำMHTH 664.1

แต่ท่านทั้งหลายผู้เป็นบิดา อย่าทำให้บุตรของ ท่านท้อถอย จงแสดงความรักต่อบุตร เมื่อจะอบรมสั่ง สอนและสั่งให้เขาทำอะไร ๆ จงแสดงความเมตตาปราณี และเห็นอกเห็นใจบุตร เมื่อมีเวลาว่างก็จงเล่นกับลูก ๆ และ สนิทสนมกับเขา จงทำงานและเล่นกับลูก ๆ เพื่อบุตรจะ ได้ไว้วางใจท่าน จงเป็นเพื่อนกับลูก ๆ ของท่านโดยเฉพาะ อย่างยิ่งกับบุตรชายของท่าน โดยวิธีนี้ท่านย่อมจะมีอิทธิ-พลชักจูงให้บุตรของท่านทำดีได้MHTH 664.2

บิดาควรปฏิบัติหน้าที่ของตน ในการทำให้ครอบ ครัวมีความสุข แม้ว่าจะมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับการงาน ก็ไม่ควรจะนำเรื่องนั้นมาให้ครอบครัวเดือดร้อน เมื่อกลับ ถึงบ้านบิดาควรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าววาจาที่ ไพเราะอ่อนหวานMHTH 665.1

โดยนับหนึ่งบิดาเป็นปุโรหิตของครอบครัว ทุก เวลาเช้าและเวลาเย็น เขาจัดให้มีการประชุมในครอบครัว แค่ภรรยาและบุตรควรร่วมในการอธิษฐาน และร้องเพลง สรรเสริญพระเจ้า ในเวลาเช้าก่อนที่จะออกจากบ้านไป ทำงาน ให้บิดาเรียกบุตรมาพร้อมหน้ากัน แล้วนมัสการ พระเจ้า และมอบเด็กเหล่านั้นไว้ให้อยู่ภายใต้ความปกปัก รักษาของพระบิดาในสวรรค์ เมื่อทำงานเสร็จแล้วในวัน หนึ่ง ๆ ให้ทุกคนในครอบครัวร่วมใจกันอธิษฐานและร้อง เพลงเพื่อขอบคุณพระเจ้าที่ได้ทรงพิทักษ์รักษาเขาไว้ตลอด วันMHTH 665.2

แม้ว่าบิดามารดาจะต้องทำงานหนัก ก็ควรจะชัก จูงให้ทุก ๆ คนในครอบครัวมานมัสการพระเจ้าเสมอ ทูล ขอพระองค์ทรงโปรด ให้เหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์มาพิทักษ์ รักษาครอบครัวของท่าน จงจำไว้ว่าผู้ที่ท่านรักต้องประสพ การทดลองในชีวิตของเรา ทุก ๆ คนต้องได้รับความยาก ลำบากทั้งคนแก่คนหนุ่ม คนทั้งหลายที่ปรารถนาจะมีชีวิต อยู่ด้วยความรัก, ความอดทน, และความร่าเริงแจ่มใส, ต้องอธิษฐาน เราจะเอาชนะตัวเองได้ก็โดยอาศัยความ ช่วยเหลือจากพระเจ้าอยู่เสมอ ๆMHTH 666.1

ครอบครัวควรจะเป็นที่ ๆ มีความแจ่มใสร่าเริง, ความอ่อนโยนสุภาพ, และความรัก เมื่อมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ทุก ๆ คนที่อยู่ในครอบครัวก็มีความสุข และความสงบสุข บางครั้งอาจจะมีความทุกข์ลำบาก แต่ก็เป็นธรรมดาอยู่ เองที่มนุษย์จะได้รับความลำบากเดือดร้อน ให้ความอดทน, ความกตัญญูรู้คุณ, และความรักทำให้ใจเรามีความสุข แม้ว่าเราจะได้รับความยากลำบากบ้าง ในครอบครัวเช่นนี้ ทูตสวรรค์ของพระเจ้าอาศัยอยู่MHTH 666.2

สามีภรรยาควรเอาใจใส่ในความทุกข์สุขของกัน และกัน ควรแสดงความสุภาพและเอาอกเอาใจกันในสิ่ง เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ชีวิตมีความสุขยิ่งขึ้น สามีภรรยา ควรมีความไว้วางใจกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกัน สามีภรรยาควรร่วมใจกันทำงาน เพื่อประโยชน์ที่สูงสุด ของพวกลูก ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าลูก ๆ สามีภรรยาไม่ควรจะ ว่ากล่าวติเตียนกัน และสามีควรจะแนะนำตักเตือนและช่วย ให้ภรรยามีกำลังใจ บิดามารดาควรทำตัวสนิทสนมกับ ลูก ๆ อย่าให้เกิดความมึนชาเฉยเมยระหว่างลูก ๆ กับบิดา มารดา บิดามารดาต้องเข้าใจความรู้สึกและรสนิยมของ บุตร เพื่อบุตรจะได้มีความไว้วางใจ เมื่อมีเรื่องเดือดร้อน ก็นำมาปรึกษาหารือบิดามารดาMHTH 667.1

ท่านผู้เป็นบิดามารดา จงแสดงให้บุตรเห็นว่าท่าน รักเขาและพยายามจนสุดความสามารถที่จะทำให้บุตรมี ความสุข จงปกครองบุตรด้วยความเมตตาปราณีและ ความรัก และจำไว้ว่า “ทูตของเขาเฝ้าอยู่เสมอต่อพระ พักตรพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์” ถ้าท่านปรารถนา จะให้เหล่าทูตสวรรค์ช่วยเหลือบุตรของท่าน ตามที่พระเจ้า ทรงตรัสสั่งให้ช่วยเหลือ ท่านต้องร่วมมือกับเหล่าทูต สวรรค์โดยทำงานที่พระเจ้าทรงมอบหมายไว้ให้ท่านMHTH 668.1

ถ้าเด็กได้รับการอบรมเลี้ยงดูในครอบครัวที่มี ความรักและความอบอุ่น เด็กจะไม่ต้องการไปแสดงหา ความเพลิดเพลินสนุกเพลิดเพลินที่อื่น เขาจะไม่สนใจในสิ่ง ที่ชั่วร้าย เพราะบิดามารดาได้สั่งสอนให้เป็นผู้มีนิสัยดีงาม และให้หลีกเลี่ยงจากสิ่งชั่วร้าย เขาจะมีอำนาจที่จะต่อสู้ การทดลอง เมื่อเขาออกจากครอบครัวไปประกอบกิจการ ในชีวิตของเขาMHTH 668.2

บุตรก็มีหน้าที่อันสำคัญในครอบครัวเช่นเดียวกับ บิดามารดา บิดามารดาควรสอนบุตรให้ทราบว่า เขาเป็น ส่วนหนึ่งของครอบครัว เขาได้รับอาหาร, เสื้อผ้า, ความ รักจากบิดามารดา ดังนั้นเขาจึงควรจะตอบแทนโดยช่วย แบ่งเบาภาระของบิดามารดาในบ้าน และช่วยให้ผู้ที่อยู่ใน ครอบครัวมีความสุขMHTH 668.3

บางครั้งบุตรอาจจะไม่พอใจ ที่บิดามารดาเข้มงวด ในการอบรมสั่งสอนเขา และต่อไปภายหน้าเมื่อเติบโดขึ้น เขาจะรู้สึกขอบคุณบิดามารดาที่ได้ช่วยอบรมสั่งสอนเขาให้ เป็นคนดี และนำเขาให้เดินไปตามทางชอบธรรมMHTH 669.1