ซาตานใช้กลอุบายล่อลวงมนุษย์ให้หลงกระทำผิด

เรามีชีวิตอยู่ในยุคแห่งความสว่างอันแจ่มจ้า (หมายถึงยุคที่มนุษย์ได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ อย่างมากมาย) แต่ส่วน มากของสิ่งที่เราเรียกว่าความสว่างนั้น ได้เปิดโอกาสให้ ซาตานใช้อุบายล่อลวงมนุษย์ เราจะได้เรียนรู้ อะไร ๆ หลายอย่างที่เราอาจจะคิดว่าเป็นความจริง แต่เรา ต้องใช้เวลาอธิษฐานอย่างมากมายเพื่อเราจะได้ทราบว่าสิ่ง นั้นเป็นกลอุบายของซาตานหรือไม่ ทางแห่งความผิดพลาด ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ชิดกับทางแห่งความสัตย์จริง เราเกือบ จะไม่สามารถบอกได้ว่าทางนั้น แตกต่างจากทางที่นำไปสู่ ความบริสุทธิ์ชอบธรรมและสวรรค์ แต่จิตวิญญาณที่ได้รับ แสงสว่างจากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะสามารถมองเห็นได้ว่า ทางของซาตานแตกต่างจากทางของพระเจ้าCChTh 493.3

ทฤษฎีที่สอนให้มนุษย์คิดว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ และปรากฏอยู่ในธรรมชาติทั่วไปเป็นกลอุบายอันแนบเนียน ของซาตาน การที่เป็นเช่นนี้ทำให้มนุษย์เข้าใจผิดในเรื่อง ที่เกี่ยวกับพระเจ้าและเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นฤทธานุภาพอัน ยิ่งใหญ่และสง่าราศีของพระองค์CChTh 494.1

พระคำของพระเจ้ามิได้กล่าวสนับสนุนทฤษฎี ที่สอน ว่าพระเจ้าสถิตอยู่ในสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติทั่วไป ความ สัตย์จริงของพระองค์แสดงให้เราเห็นทฤษฎีเหล่านี้เป็นสิ่ง ที่ซาตานใช้ทำลายจิตวิญญาณของมนุษย์ ทฤษฎีเหล่านี้ เป็นทฤษฎีที่มืดมนธ์ เพราะจะสามารถช่วยให้มนุษย์ทำ ตามความปรารถนาของเขา ถ้าเรายอมเชื่อในทฤษฎีเหล่า นี้ เราก็จะถูกแยกออกจากพระเจ้าCChTh 494.2

เราทั้งหลายได้ตกเป็นทาสของความผิดบาป และ ไม่มีผู้ใดสามารถจะช่วยเราให้รอดพ้นจากความผิดบาปนั้น ได้นอกจากพระเจ้าองค์เดียว มีอำนาจอย่างเดียวที่สามารถ จัดความชั่วร้ายออกจากจิตใจของมนุษย์ได้ และอำนาจ นั้นคืออำนาจของพระเจ้าในพระเยซูคริศต์ พระโลหิตของ พระคริศต์ผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน สามารถจะชำระเราให้ สะอาดปราศจากความผิดบาปได้ พระคุณของพระองค์ สามารถจะช่วยให้เราต่อต้านการทดลองของซาตาน และ ช่วยไม่ให้เราหลงกระทำผิด ซาตานล่อลวงมนุษย์ให้คิดว่า พระเจ้าเป็นผู้สถิตอยู่ในธรรมชาติทั่วไป ถ้าเป็นเช่นนี้ แล้วพระเจ้าก็ต้องสถิตอยู่กับมนุษย์ทุกคน และในการที่ เราจะเป็นผู้บริสุทธิ์ชอบธรรมได้นั้น เราต้องทำให้อำนาจ ที่เรามีอยู่ในตัวเราเพิ่มมากยิ่งขึ้นCChTh 495.1

ทฤษฎีเหล่านี้ทำให้คนเราคิดว่าเขาสามารถจะช่วยตัว เองให้รอดได้ ทฤษฎีเหล่านี้ที่เกี่ยวกับพระเจ้าไม่ทำให้ บังเกิดผลอะไรแก่มนุษย์ และคนทั้งหลายที่ยอมรับเอา ทฤษฎีเหล่านี้อาจจะถูกชักจูงให้คิดว่าพระคัมภีร์เป็นหนังสือ นิยายที่แต่งขึ้นและไม่มีอะไรที่เป็นจริง เขาอาจจะพยายาม ทำความดีแต่เขาไม่คิดว่าพระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เขา พึ่งในอำนาจของมนุษย์ ซึ่งถ้าปราศจากพระเจ้าเสียแล้ว อำนาจของมนุษย์ก็จะไม่มีคุณค่าอะไรเลย มนุษย์ไม่มี อำนาจที่จะต่อต้านหรือเอาชะนะความชั่วร้ายได้ มนุษย์ ไม่มีเครื่องกีดขวางมิให้เขาทำบาป เมื่อเราไม่ยอมปฏิ- บัติตามพระคำของพระเจ้า และไม่ยอมรับพระวิญญาณของ พระองค์เราก็ไม่ทราบว่าตัวเราจะตกต่ำลงสักเพียงไรCChTh 495.2

คนทั้งหลายที่ไม่เชื่อถือและไม่ปฏิบัติตามคำสอนของ พระเจ้าจะไม่ได้รับความรอด และจะต้องสูญเสียชีวิตชั่ว นิรันดร์CChTh 496.1